ตรัง-ผู้ว่าตรัง เต้น ทำหนังสือด่วนถึงอธิบดีกรมท่าอากาศยาน หาทางออกค่าตั๋วเครื่องบินตรังแพง อึ้ง อาคารผู้โดยสารหลังใหม่ 1.2 พันล้าน ถูกทิ้งงานผู้รับเหมาหายแล้ว ทั้งที่สัญญาว่าจะกลับเข้าทำงานตั้งแต่ 1 ต.ค. หลัง “นายหัวชวน” ทำหนังสือจี้ แถมไร้รปภ. เสี่ยงจารกรรมทรัพย์สิน ผอ.สนามบินย้ายด่วน! แต่ไม่กระทบเพราะได้คนใหม่มาสานต่อ
จากกรณีผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังได้รับร้องเรียนจากประชาชนผู้สัญจรเดินทางโดยใช้บริการเครื่องบินระหว่างตรัง-กรุงเทพฯ ถึงปัญหาค่าตั๋วโดยสารราคาแพงทั้งขาไปและขากลับ ในทุกสายการบินที่บินมายังจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเรื้อรังมานานแล้ว โดยราคาแพงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นสูงถึง 9,000 บาทต่อคนต่อเที่ยวบิน แม้ต่อมาจะมีการปรับลดลง ก็ยังอยู่ในเกณฑ์สูง ยิ่งโดยเฉพาะการซื้อตั๋วแบบฉุกเฉินใกล้หรือในวันเดินทาง พบว่าหลายรายต้องจ่ายถึง 2,000-3,000 บาทต่อเที่ยวบิน ขณะที่หากเดินทางไปกทม.จากสนามบินใกล้เคียง เช่น สนามบินกระบี่ สนามบินหาดใหญ่ ค่าตั๋วเครื่องบินกลับถูกกว่ามาก ราคาเฉลี่ยเพียง 1,500-2,000 บาทต่อคนต่อเที่ยวบินเท่านั้น ปัญหาตั๋วเครื่องบินแพงจึงส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเดินทางของประชาชนที่มีความจำเป็น เช่น เดินทางไปหาหมอที่กทม. ไปทำงาน ไปทำธุระจำเป็น ขณะที่ภาคธุรกิจการท่องเที่ยววิตกกังวลว่า ราคาตั๋วเครื่องบินมาจังหวัดตรังที่แพงนั้น จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวจองนักท่องเที่ยว เหมือนเป็นการปิดเมืองตั้งแต่ด้านแรก และจะส่งผลกระทบต่อเนื่องยังภาคธุรกิจของจังหวัดต่อกันเป็นลูกโซ่
ล่าสุดวันนี้(29ต.ค.67) ที่ห้องแถลงข่าวลิบง ศาลากลางจังหวัดตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดแถลงข่าวด่วน โดยระบุว่า ปัญหาเกี่ยวกับสนามบินตรังทั้งหมด ทั้งเรื่องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากค่าโดยสารที่แพง รวมถึงปัญหาการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ รวมถึงปัญหาก่อนหน้าที่ที่แอร์อาคารที่พักผู้โดยสารหลังเดิมเสีย ตนได้โทรศัพท์ไปหารือกับอธิบดีกรมท่าอากาศยานทั้งหมดแล้ว และจะทำหนังสือด่วนหารือไปยังอธิบดีกรมท่าอากาศยานเรื่องค่าตั๋วเครื่องบินแพงที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคท่องเที่ยวของจังหวัด
นายทรงกลด กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาการทิ้งงานของผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารสนามบินตรังหลังใหม่ วงเงิน 1.2 พันบ้านบาท สืบเนื่องมาจากนายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภาได้ทำหนังสือทวงถามไปยังอธิบดีกรมท่าอากาศยาน แล้วได้รับหนังสือชี้แจงกลับมาว่า ทางกรมท่าอากาศยานไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้เรียกผู้รับจ้างมาสอบถามได้รับการยืนยันว่าจะยอมเสียค่าปรับตามสัญญาและกลับมาทำงานต่อ โดยระบุว่าจะกลับมาทำงานในวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าจนขณะนี้ก็ยังไม่เข้ามาทำงานต่อ ทำให้อาคารสนามบินถูกทิ้งร้างอยู่ในขณะนี้ และตนก็เพิ่งทราบว่าไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความเสียหาย ซึ่งบริษัทรักษาความปลอดภัยที่จังหวัดตรังยังมีน้อย ดังนั้นถือว่าเสี่ยงอันตรายในเรื่องอาชญากรรมต่างๆ ดังนั้นตนจะทำหนังสือหารือปัญหาดังกล่าวไปยังอธิบดีกรมท่าอากาศยานเป็นการด่วนต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
“ยืนยันว่าทางจังหวัดเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องตั๋วแพงและเรื่องการทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ผมก็ได้โทรหาท่านอธิบดีกรมท่าอากาศยานตลอด แต่เร็วๆ นี้ผอ.สนามบินตรังมาได้ 2 เดือนก็ขอย้ายอีก แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะผอ.คนใหม่ก็มาแทนจากนราธิวาส ก็จะมาแก้ไขปัญหากันต่อ”ผู้ว่าฯตรังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: