X

ตร.ตรังเข้ม ปราบอาชญากรรม จับอาวุธปืน-รถซิ่ง-ท่อแต่ง ของกลางเพียบ ผู้การตรังลงมือขับแบ็คโฮนำทำลายด้วยตัวเอง 

ตร.ตรังเข้ม ปราบอาชญากรรม จับอาวุธปืน-รถซิ่ง-ท่อแต่จริงจัง ของกลางเพียบ ผู้การตรัง เตือน! ทำผิดซ้ำซาก ผู้ปกครองโดนด้วย ลุยทำลายของกลางหลังศาลสั่งคดีถึงที่สุด นับร้อยรายการ ลงมือขับแบ็คโฮนำทำลายด้วยตัวเอง 

 

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ที่สถานีตำรวจภูธรสิเกา อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสิเกา เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสิเกา ร่วมกันทำลายอาวุธปืนของกลางที่ศาลได้มีคำพิพากษาให้ริบเป็นของกลางและคดีถึงที่สุดแล้ว ให้เป็นไปตามแนวทาง ขั้นตอน และวิธีการทำลายอาวุธปืนของกลาง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ซึ่งตามคำสั่งดังกล่าวได้กำหนดให้อาวุธปืนของกลางที่อัตลักษณ์ (ปืนมีทะเบียน) เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้ริบและเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว หรือคดีนั้นขาดอายุความแล้ว ให้ส่งอาวุธปืนดังกล่าวไปยังกองสรรพาวุธ และกรณีอาวุธปืนไม่มีอัตลักษณ์(ปืนไม่มีทะเบียน/ปืนประดิษฐ์เอง) เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบและเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว หรือขาดอายุความแล้ว ให้เร่งดำเนินการทำลายทุกปีตามระเบียบสตช. ว่าด้วยการเก็บรักษาและการจำหน่ายของกลาง พ.ศ.2565 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง จึงได้อนุมัติให้ผู้กำกับการสภ.สิเกา แต่งตั้งคณะกรรมการทำลายอาวุธปืนของสภ.สิเกา ตามคำสั่งสภ.สิเกา โดยของกลางที่ดำเนินการทำลายมีหลายชนิดและหลายขนาด เช่น อาวุธปืนบรรจุปากกา ปืนอัดลมประกอบเอง หรือไทยประดิษฐ์ ปืนลูกซองประกอบเอง เป็นต้น จำนวน 62 คดี รวมอาวุธปืนทั้งสิ้น จำนวน 63 กระบอก และท่อไอเสีย จำนวน 153 อัน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวิธีการทำลายอาวุธปืนของกลางตามระเบียบสตช. จะใช้เครื่องมือสำหรับตัดเหล็กในการทำลายและปฏิบัติตามคำสั่งสตช. เพื่อให้อาวุธปืนของกลางทั้งหมดสิ้นสภาพที่จะนำมาใช้งานได้ใหม่ โดยต้องตัดทำลาย 3 ส่วน ดังนี้ 1.ตำแหน่งกลางลำกล้อง เพื่อให้สิ้นสภาพ 2.ตำแหน่งชุดลั่นไก่ เพื่อให้สิ้นสภาพ และ 3.ตำแหน่งกลางพานท้าย เพื่อให้สิ้นสภาพ ก่อนนำไปเผาทำลาย โดยเศษซากที่ได้จากการเผาทำลายให้นำไปฝั่งกลบ ในส่วนวิธีการทำลายท่อไอเสียรถแต่ง ทำลายโดยใช้รถบดทำให้เสียสภาพ ทั้งนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ยังได้บังคับรถแบ๊คโฮทำลายของกลางด้วยตัวเองอีกด้วย

 

พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ทั้งนี้การทำลายอาวุธปืนของกลาง เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน ไม่ให้มีการนำอาวุธปืนของกลางซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วออกไปใช้ในทางมิชอบ อย่างไรก็ตามการทำลายอาวุธปืนเป็นเพียงหนึ่งในมาตรการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมายของสตช. ที่ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกมิติ ทั้งการระดมกวาดล้าง จับกุมแหล่งผลิต จำหน่าย โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายออนไลน์ เมื่อจับกุมได้ให้ขยายผลดำเนินการกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังทุกราย รวมทั้งการระดมกวาดล้างการกระทำความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทาง เมื่อจับกุมได้แจ้งให้ผู้กระทำความผิดดำเนินการแก้ไขท่อไอเสียให้อยู่ในสภาพเดิม และดำเนินการยึดท่อไอเสียที่ผิดกฎหมายเพื่อทำลายพร้อมเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ตำรวจยังได้ปรับพฤติกรรมวัยรุ่นให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่สร้างความเดือนร้อนให้ประชาชน

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนหาข่าวการแข่งรถในทางสาธารณะโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงท่อเสียงดัง รบกวนชาวบ้านและนักท่องเที่ยว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ที่แข่งรถในทางได้จะลงบันทึกในครั้งแรก หากมีครั้งต่อไปผู้ปกครองจะมีความผิดด้วย ส่วนรถนั้นทางศาลจะพิจารณาว่าจะริบรถหรือไม่ ดังนั้นผู้ปกครองไม่ควรส่งเสริมให้บุตรหลานแต่งรถที่มีท่อเสียงดังรบกวนชาวบ้านและนักท่องเที่ยว และขอเตือนไปถึงร้านจำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ ห้ามจำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถที่ผิดกฎหมาย ส่วนการสั่งซื้ออุปกรณ์แต่งรถและการสั่งซื้ออาวุธปืนทางอินเตอร์เน็ต ทางเจ้าหน้าที่กำลังติดตามเพจหรือเฟสบุ๊กของผู้ที่กระทำผิดอยู่ในขณะนี้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน