ตรัง-ทีมนายกบุ่นเล้ง เบอร์ 1 ขยับก่อน ยกพลหาเสียงเกาะสุกร เช็คอินถนนสีรุ้ง ดันนโยบาย เปิดมิติใหม่อบจ.ตรังหนุนงานท่องเที่ยว ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ให้บ้านเกิด ต่อยอดสามประสาน อบจ.-2อบต. พัฒนาถนนบนเกาะ สร้างแพขนานยนต์รับท่องเที่ยว-ขนส่งสินค้า ให้กำลังใจเบอร์ 3 หลังประสบอุบัติเหตุพักผ่อนน้อยจนรถหาเสียงตกข้างทาง ชาวเกาะขอบคุณอบจ.ตรัง มาถูกทางสร้างท่าเรืออำนวยความสะดวกท่องเที่ยว ขนคนไข้-พืชผลการเกษตร สะดวกรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังถึงบรรยากาศในการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง(นายกอบจ.ตรัง) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง(ส.อบจ.ตรัง) ภายหลังปิดรับสมัครไปแล้วพร้อมกันทั่วประเทศ โดยในส่วนของจังหวัดตรัง หลังปิดรับสมัคร กกต.ประจำอบจ.ตรัง ได้สรุปรายงานจำนวนผู้สมัครเลือกตั้งนายกอบจ.ตรัง และ ส.อบจ.ตรัง ระหว่างวันที่ 23-27 ธันวาคม มีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ. ตรัง รวมทั้งสิ้น 3 คน ประกอบด้วย นายบุ่นเล้ง โล่สถาพิพิธ หมายเลข 1 นายยรรยง ตันติตรีญาณ หมายเลข 2 และ นายทวีศักดิ์ สงชู หมายเลข 3 สำหรับผู้สมัครส.อบจ. มีจำนวน 61 คน โดยผู้สมัครแต่ละรายได้เริ่มหาเสียงด้วยการจัดทำป้าย รถแห่ แผ่นพับแนะนำตัวพร้อมหมายเลขผู้สมัครกันอย่างคึกคักตามเงื่อนไขที่กฎหมายการเลือกตั้งกำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมที่เริ่มขยับเตรียมความพร้อมในการหาเสียงแนะนำตัว พร้อมลงพื้นที่เป็นทีมแรก คือ ทีม “นายกบุ่นเล้ง” นำโดยนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ ผู้สมัครนายกอบจ.ตรัง หมายเลขที่ 1 ซึ่งเป็นอดีตนายกอบจ.ตรังคนล่าสุด ที่ได้จัดเตรียมทีมป้องกันแชมป์ต่ออีกสมัย โดยได้ส่งส.อบจ.ในนามของทีมครบทั้ง 30 เขตเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวของผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.ตรังหมายเลขที่ 3 คือ นายทวีศักดิ์ สงชู อดีตนายกอบต.นาพละ อ.เมืองตรัง ที่เริ่มตระเวนติดป้ายหาเสียงแล้วเช่นกัน จนกระทั่งล่าสุดได้ประสบอุบัติเหตุรถตกข้างทางเนื่องจากร่างกายก่อนเพลียจากการพักผ่อนน้อย แต่เจ้าตัวไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
สำหรับบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงในวันนี้(2ม.ค.68) ที่ท่าเรือตะเสะ ตำบลเกาะสุกร อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ ผู้ลงสมัครนายกอบจ.ตรัง หมายเลขที่ 1 พร้อมด้วยสมาชิก “ทีมนายกบุ่นเล้ง” กว่า 10 คน ลงพื้นที่หาเสียงเกาะสุกร โดยได้นั่งเรือหางยาวจากฝั่งท่าเรือตะเสะ ใช้เวลา 15 นาทีจนถึงเกาะสุกรก่อนจะเดินพบปะพี่น้องประชาชนชาวเกาะสุกร โดยนายบุ่นเล้งได้เข้าทักทายแนะนำตัว พร้อมแจกแผ่นพับเล็ก และบัตรเล็กแนะนำตัวกับบรรดาชาวบ้าน พร้อมชูนโยบาย เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ของเกาะสุกร โดยมีชาวบ้านให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ตั้งแต่บริเวณท่าเรือเกาะสุกร และย่านชุมชนต่างๆบนเกาะ ก่อนที่ทั้งคณะจะนั่งรถซาเล้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกาะสุกรเพื่อพบปะชาวบ้านตามเส้นทางต่างๆ พร้อมโบกมือจอดแวะทักทายชาวบ้านตลอด 2 ข้างทาง โดยเฉพาะร้านกาแฟ มัสยิด ร้านค้า แพประมงต่างๆ ฯลฯ
สำหรับจุดที่น่าสนใจ นายบุ่นเล้งและคณะได้จอดแวะที่ “ถนนสีรุ้ง” ถนนเส้นหลักใจกลางเกาะสุกร เพื่อพบปะกับชาวบ้าน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ลูกหลานชาวเกาะสุกร ที่บริเวณถนนคนเดินสีรุ้ง ซึ่งเหล่าศิลปินและจิตอาสาลูกหลานคนบนเกาะ ร่วมกับอบต.เกาะสุกร ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทาสีตกแต่งเป็นถนนสีรุ้ง ซึ่งกำลังอยู่ในกระแสมีนักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปเช็คอินเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างสีสันให้กับเกาะและดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยนายบุ่นเล้งได้ถ่ายภาพเช็คอิน และให้กำลังใจกลุ่มศิลปินอาสาโดยกล่าวชื่นชมว่าเป็นคนมีฝีมือที่ทำงานเพื่อชุมชน พร้อมแสดงความสนใจสอบถามที่มาที่ไปของการทำถนนสีรุ้งดังกล่าวในเฟสแรก ซึ่งมีความยาวราว 50 เมตร รวมทั้งเป้าหมายการทำในเฟสที่สอง ความยาวต่อไปอีก 80 เมตร เพื่อใช้เป็นถนนสายท่องเที่ยวและจัดกิจกรรม โดยปัจจุบันถนนคนเดินเกาะสุกร จะมีในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งมีทั้งร้านค้า อาหารการกิน งานศิลปะ งานทำมือของคนรุ่นใหม่บนเกาะเป็นต้น
นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ ผู้สมัครนายกอบจ.ตรัง หมายเลขที่ 1 หัวหน้าทีมนายกบุ่นเล้ง ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ลงพื้นที่เกาะสุกร ซึ่งจริงๆแล้วเป็นพื้นที่ที่รู้สึกอบอุ่นทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เหมือนกัน มาแล้วก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เพราะส่วนใหญ่เราจะรู้จักกัน และคาดว่าจะลงมาหาเสียงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนโยบายที่ลงมาหาเสียงในวันนี้ เราจะเน้นเรื่องท่องเที่ยว ซึ่งจะเชิญผู้บริหารระดับสูงของประเทศ ว่าถ้ามีโอกาสจะเชิญมาประชุมหารือ ว่าเกาะสุกรเป็นสถานที่สงบเงียบ ชาวต่างชาติก็มาเที่ยวเยอะ แต่ถ้าจะให้ดังจริงๆแล้วนั้น ควรนัดผู้ที่เกี่ยวข้องมาดู แล้วเรามาร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกัน ซึ่งปีที่แล้วตนได้ของบประมาณจากกรมทางหลวงชนบทมา 85 ล้านบาท ตอนนั่นคิดว่าถนนรอบเกาะ ซึ่งขาดอยู่ประมาณ 300 เมตรยังไม่รอบ และถนนเก่าก็ชำรุดทรุดโทรม และได้นำเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงชนบทฝ่ายช่างมาสำรวจ ซึ่งถึงเวลาที่จะต้องรื้อและทำใหม่ ตนก็ได้บอกให้สำรวจออกแบบประมาณราคาได้เลย เราได้มา 85 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าต้องหยุดไป ที่ประมาณ 300 เมตร เพราะชาวบ้านเขาคุยกันไม่ลงตัว งบก็เลยพักไป
“ถ้าถนนรอบเกาะสำเร็จตามที่ผมคาดหวังไว้ว่าถ้าถนนสำเร็จแล้ว เราจะสร้างท่าแพขนานยนต์ที่เกาะสุกร 1 ที่ และที่ท่าเรือตะเสะ 1 ที่ โดยนายกบต.เกาะสุกร และนายกอบต.ตะเสะเข้ามาบูรณาการร่วมกัน ซึ่งมีอบจ.ตรังร่วมด้วยลงทุนด้วย และสร้างแพขนานยนต์ 1-2 ลำ ตั้งระบบขึ้นมาบริหาร คนที่จะมาเที่ยวเกาะก็เดินทางสะดวกง่าย ไปกลับได้เลย และขนส่งทั้งไม้ อุปกรณ์ก่อสร้างต่าง ผลิตทางการเกษตร แตงโมเกาะสุกรที่มีชื่อเสียงก็ขนสะดวกง่ายขึ้น
“บางทีโครงการดีๆน่าจะเกิด แต่ว่าสุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ก็กลัว เนื่องจากมีการร้องเรียนกันเยอะ ซึ่งทุกผู้บริหารทุกที่โดนร้องเรียนหมด เคยนั่งหารือว่า เราหยุดได้ไหมแล้วมานั่งร่วมบริหาร เพื่อคนหลังๆจะได้ทำมาหากินและมีช่องทางมากขึ้น แล้ววันนี้ที่มาหาเสียงนั้นก็มาเดินพบปะเหมือนเดิม ซึ่งผู้คนในเกาะก็มีการบอกว่าผมไม่ต้องมาก็ได้ แต่ไม่ได้ ผมต้องมา อย่างน้อยที่นี่เวลามีงานบุญ งานขาวดำ งานแต่งงานมงคลต่างๆส่วนใหญ่แล้วผมจะไม่เคยขาด จะเหมาเรือมาถึงให้งานเสร็จก็กลับ ซึ่งเราสร้างความผูกพันไว้เยอะ และในวันนี้ผู้สมัครส.อบจ. ก็มาลงพื้นที่เหมือนกัน แล้วก็เป็นคนที่ชาวบ้านรักชอบ และขยันลงพื้นที่”นายบุ่นเล้งกล่าว
นายบุ่นเล้งกล่าวด้วยว่า สำหรับบรรยากาศการเลือกตั้งอบจ.ตรัง ตนก็ทราบข่าวผู้สมัครนายกอบจ.ตรังหมายเลข 3 รถเสียหลักพุ่งลงข้างทาง ตนก็ขอเป็นกำลังใจให้ ยังไงก็ขอให้รักษาดูแลสุขภาพ ขออย่าให้เกิดอุบัติเหตุที่ซ้ำซ้อนอีก
ด้านนางเยาวลักษณ์ ไชยมล อายุ 66 ปี ชาวเกาะสุกร บอกว่า เรื่องท่าเรือของอบจ.ตรัง ที่ในขณะนั้นนายบุ่นเล้งได้ปรับปรุงและได้เปิดใช้งาน พอย้ายมาสะพานใหม่ที่ทางอบจตรังได้ทำสำเร็จไป ก็มีความสะดวกสบายมากขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น ก็เป็นเรื่องดีมาก ที่ทางชาวเกาะสุกรได้ใช้สะพานที่กว้างและมั่นคง แล้วสามารถขับรถมาจนถึงปลายสะพาน การขนย้ายสินค้าของต่างๆสะดวกสบายมากขึ้น การขึ้นลงบันไดของผู้สูงอายุก็ไม่มีปัญหา และไฟฟ้าส่องสว่างก็มี ดูแล้วเจริญขึ้นสะดวกสบายมีความสว่าง ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมาก และการให้บริการของเรือโดยสารจะมีทั้งกลางวันและกลางคืน จนถึงเที่ยงคืน หรือหากมีเหตุฉุกเฉินเจ็บไข้ไม่สบาย เราก็พร้อมเดินทางได้ตลอดทั้งวัน นี่เป็นความคล่องตัวของคนเกาะสุกร ต้องขอขอบคุณทางอบจ.ตรังที่ได้สร้างสะพานนี้ขึ้นมา เพื่อส่งเสริมทั้งชีวิตประจำวันของคนในเกาะ และส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย
