ตรัง-ผู้การ ตร.ตรัง รุดเยี่ยมเด็กวัยขวบเศษ เหยื่อวัยรุ่นคะนองโยนระเบิดปิงปองกลางเคาท์ดาวน์หาดปากเมง สั่งล่าตัวมือปา ล่าสุดส่งตัวต่อรพ.ตรังแล้ว หลังพบแรงระเบิดกระแทกจนปอดช้ำ ผู้ว่าฯ ตรังเต้น สั่งพม.-นายอำเภอสิเกาเข้าดูแลเยียวยาด่วน พร้อมถอดบทเรียนรับมือท่องเที่ยวทะลักช่วงเทศกาล จัดจิตอาสาช่วยเก็บขยะล้น
เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า จากกรณีเพจ “Drama-addict” แชร์โพสต์ของคุณแม่รายหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า “ใครมีเบาะแสคนร้ายช่วยแจ้งแม่เขาด้วยนะครับ” โดยสำหรับโพสต์ดังกล่าว เป็นคุณแม่ขอความร่วมมือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ปาประทัดปิงปอง โดนลูกของเธอ โดยเธอระบุว่า “เมื่อคืนที่หาดปากเมงแถวสะพานหิน น้องได้โดนคนเลวที่ไม่คิดถึงว่ามีเด็กเยอะ ได้โยนลูกประทัดปิงปองใส่เต็ม ๆ ประมาณเวลา 23.58 น. ใครที่อยู่ในเหตุการณ์หรืออยู่แถวนั่นมีคลิปวิดีโอหรือมีรูปพวกที่ติดกลุ่มพวกมัน ช่วยติดต่อกลับมาด้วยนะคะ ขอบคุณมาก ๆ คะ สงสารลูกที่สุดคนเป็นแม่ ช่วยแชร์กันไปให้ทีนะคะ”
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา โดยในกลุ่มโซเชี่ยลมีเดียจังหวัดตรังหลายกลุ่ม ได้แชร์โพสต์ข้อความพร้อมภาพบรรยากาศการฉลองคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่บริเวณชายหาดปากเมง ประตูสู่อันดามัน ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตและเป็นประตูสู่อันดามัน โดยหลายโพสต์ได้ระบุเหตุน่าตกใจของการเล่นจุดพลุ ดอกไม้ไฟ รวมไปถึงระเบิดปิงปองบริเวณแนวชายหาด โดยกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง ได้ทั้งจุดพลุ ดอกไม้ไฟ ระเบิดปิงปองอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเวลากลางวันของวันที่ 31 ธันวาคม-ช่วงก้าวเข้าสู่วันที่ 1 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของปีใหม่ โดยนักท่องเที่ยวรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ตลอดแนวชายหาดยาวหลายกิโลเมตร มีการเล่นจุดพลุ ดอกไม้ไฟ รวมไปถึงระเบิดปิงปอง ต่อเนื่องตลอดเวลา จนเป็นที่ตกอกตกใจของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่มากับเด็กเล็ก
นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนยังมีเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่นเป็นระยะๆอีกด้วย โดยเป็นที่น่าตกใจว่า ในพื้นที่อุทยานฯ สองข้าวถนนเลียบชายหาด นอกจากจะมีการเปิดให้พ่อค้าแม่ค้าทั้งในและนอกพื้นที่มาตั้งร้านขายอาหารเครื่องดื่ม รวมทั้งของใช้ต่าง ๆ แล้ว หลายร้านยังตั้งแผงวางขายการพลุ ดอกไม้ไฟ รวมไปถึงระเบิดปิงปอง นานาชนิดกันอย่างโจ๋งครึ่ม ทั้งที่ผิดกฎหมายอุทยานชัดเจน โดยเหล่าวัยรุ่นที่มีความคึกคะนองบางส่วนได้หาซื้อมาจุดล่นจนเกิดความเดือดร้อนรำคาญตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน
ข่าวน่าสนใจ:
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 3 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรัง เดินทางเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเด็กที่ถูกสะเก็ดประทัด พร้อมมอบกระเช้าปีใหม่ และให้กำลังใจครอบครัว ซึ่งขณะนี้ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้สั่งการให้ สภ.สิเกา เร่งสืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุโดยเร่งด่วนแล้ว
ด้านนายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการท่องเที่ยวจังหวัดตรังในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 ว่า เรื่องของการท่องเที่ยวนั้นอยู่ในค่อนข้างดี เนื่องจากเรามีแลนด์มาร์คใหม่ๆและในช่วงปีที่ผ่านมาเราเป็นเจ้าภาพการจัดงานอีเวนท์ใหญ่ๆของจังหวัดเยอะ ถือเป็นกระบอกเสียงที่จากประชาสัมพันธ์มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะมีรถรายเยอะมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีอุบัติเหตุเยอะ ซึ่งจำนวนอุบัติเหตุมีเยอะขึ้น แต่จำนวนผู้เสียชีวิตไม่มีเลย ซึ่งต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกัน อุบัติเหตุที่รุนแรงมากๆไม่มี เรื่องของการกระทบกระทั่งอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ มี เพราะว่าการจราจรการสัญจรเพิ่มขึ้น มีนักท่องเที่ยวเข้าในพื้นที่เยอะขึ้น
นายทรงกลดกล่าวต่อว่า สำหรับกรณีเด็กที่ได้รับบาดเจ็บจากระเบิดปิงปองที่วัยรุ่นปาใส่กันที่หาดปางเมงนั้น อาจจะมีเคสที่กลุ่มวัยรุ่นปาระเบิดปิงปองใส่เด็กวัย 1 ปี 9 เดือน โดยทางราชการได้สั่งการไปยังทางตำรวจให้รีบดำเนินการแล้ว เพื่อหาผู้รับผิดชอบตรงนี้โดยด่วน ซึ่งทางการก็รีบหาวิธีป้องปรามสืบหาตัวคนร้าย ที่ยังเป็นมือมืดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเบื้องต้นอาการล่าสุดของน้องนั้นมีปอดช้ำและมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตรังแล้วนั้น ส่วนตรงนี้ตนจะให้ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ตรัง และทางอำเภอสิเกาเข้าไปดูแลและเข้าไปให้กำลังใจ และคงไม่มีอะไรร้ายแรง ส่วนเรื่องกระบวนการทางกฎหมาย ก็ต้องหาตัวผู้ร้ายโดยเร็ว
“ในสถานที่ท่องเที่ยวเปิดและเป็นช่วงเทศกาล จากกรณีที่เกิดขึ้น เรายอมรับว่าเราต้องมาทบทวนมาตรการเชิงป้องปรามเราต้องมานั่งถอดบทเรียนว่าถ้าเกิดเหตุอย่างนี้ จะต้องทำอย่างไรกันต่อ โดยเฉพาะในส่วนของการโอเวอร์โหลดของการท่องเที่ยว เป็นธรรมดาในช่วงเทศกาล และทางราชการคงดูแลคนได้ไม่ทั่วถึง ตรงนี้คงต้องอาศัยภาคประชาชน หากมีเครือข่ายอะไรต้องมานั่งคุย มานั่งเคลียร์ว่าแบ่งพื้นที่การรับผิดชอบกันอย่างไรต่อไป อย่างน้อยทุกฝ่ายก็ต้องพร้อมดูแลพื้นที่ โดยเฉพาะความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยการทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี ทั้งในทางมิติในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีในเรื่องของการดูแลความปลอดภัย การต้อนรับ ต้องเรียนรู้ที่จะกำหนดมาตรการไปเรื่อย ๆ ” นายทรงกลดกล่าว
นายทรงกลดกล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น เนื่องด้วยว่าหาดปากเมงเป็นพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานฯหาดเจ้าไหม ซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่มากกว่า 60% อยู่บนเกาะกระดาน ที่เหลือก็ในพื้นที่หาดเจ้าใหม่ บุคลากรส่วนหนึ่งของอุทยานฯได้แบ่งไปดูแลที่เกาะกระดาน และส่วนหนึ่งดูแลที่หาดเจ้าไหม ซึ่งตอนนี้หาดเจ้าใหม่คึกคักเนื่องจากมี Walk way ที่เขาแบนะ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว มีรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในช่วงเสาร์อาทิตย์ 50,000 บาทขึ้นไป ซึ่งต้องดูแลเรื่องของความปลอดภัย มีการจัดเจ้าหน้าที่ไปดูแล และยังดูแลเรื่องห้องน้ำเนื่องจากไม่เพียงพอแล้วในขณะนี้ และเรื่องอาหารเครื่องดื่มนั้นเมื่อเดินเที่ยวที่เขาแบนะ สามารถนำไปได้แบบจำกัด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลระหว่างรายทางอยู่ และก็มีลิงเยอะ จึงต้องดูแลไม่ให้มารบกวนกับนักท่องเที่ยว รวมทั้งเรื่องการจัดระเบียบรถด้วย และตนเองก็ได้คุยหารือกับทางหัวหน้าอุทยานฯ ที่มาใหม่ ว่าถ้าทำไม่ทัน โดยเฉพาะเรื่องขยะจากการท่องเที่ยว เรื่องแรกคือการจัดกิจกรรมจิตอาสา ในเรื่องของท้องถิ่นรวมถึงแขวงทางหลวง และเจ้าหน้าที่ของอุทยานให้หมั่นทำความสะอาดดูแล ต่อไปจะให้ทำแผนว่าช่วงไหนให้ใครมาดูแล เพื่อต่อเติมให้ดีขึ้น และเรื่องขยะในทะเลนั้นเนื่องจากผืนน้ำเป็นผืนเดียวกันทั้งโลก แต่เราปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหายหมดไปแต่ก็พยายามที่จะสร้างจิตสำนึกที่จะกระตุ้นทุกภาคส่วนในการที่จะร่วมกันรักษาความสะอาด และอาจจะเพิ่มความถี่ในการไปช่วยทำกิจกรรมจิตอาสาให้บ่อยขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสเตือนระบุ “ห้าม !!! จุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ภายในอุทยานแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 ภายในอุทยานแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดกระทำการ ยิงปืน ทำให้เกิดระเบิด หรือจุดดอกไม้เพลิง ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวทุกท่านที่เข้ามาเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ ปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบอย่างเคร่งครัด” ทั้งนี้ มาตรา 43 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ระบุ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 19 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับการชี้แจงจากฝ่ายอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่แต่อย่างใด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: