ตรัง-ชาวบ้านและเครือข่ายภาคประชาชนร้องสตง.ตรังตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณปรับปรุงซ่อมแซมถนนของเทศบาลนครตรัง ปีงบประมาณเดียว สร้างถึง 65 สาย งบประมาณกว่า 230 ล้านบาทว่าคุ้มค่า ทำสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่มีเหตุจำเป็นหรือไม่ เพราะหลายสายถนนยังอยู่ในสภาพดี ด้าน สตง.ตรังส่งเรื่องไปยัง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 14 ทำการตรวจสอบ ด้านนายกเทศมนตรีนครตรัง อ้างไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์ชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้นต้องขอเวลาศึกษารายละเอียด
ชาวบ้านในเขตเทศบาลนครตรัง จ.ตรัง ร้องเรียนเรื่องการปรับปรุงผิวจราจรถนนแอสฟัลติกคอนกรีตหลายสิบสายพร้อมกันของเทศบาลนครตรังว่า เป็นการใช้งบประมาณที่สิ้นเปลืองหรือคุ้มค่า และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเร่งสร้างหรือไม่ เพราะหลายสายพบว่ายังอยู่ในสภาพที่ยังสามารถใช้งานได้อีกยาวนาน โดยเฉพาะการก่อสร้างเริ่มต้นพร้อมๆ กันหลายๆ สายกระจายไปทั่วเขตเทศบาลนครตรัง นับตั้งแต่ปลายปีงบประมาณ 2567 จนถึงขณะนี้ ในช่วงที่ฝนตกหนักทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก ในช่วงที่ฝนหยุดตกก็เกิดฝุ่นละออง ร้านค้า ร้านอาหารริมทางถนนก่อสร้าง ต้องหยุดค้าขายชั่วคราวสร้างความเดือดร้อนให้เป็นอย่างมาก รวมทั้ง นักเรียน ผู้ปกครองก็ลำบาก
ทั้งนี้ จากการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยริมถนนสายท่ากลาง ตอน 2 นับจากหน้าวัดตันตยาภิรม (พระอารามหลวง ) ถึงหน้าโรงเรียนตรังคริสเตียน ระยะทางประมาณ 300 เมตร ที่กำลังทำการก่อสร้าง โดยชาวบ้านต่างก็บอกว่า ถนนเส้นนี้เพิ่งปรับปรุงมาได้ 4 ปี สภาพยังใช้งานได้อยู่ ไม่มีหลุมไม่มีบ่อ ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ และไม่มีรถใหญ่สัญจร ยังไม่มีความจำเป็นจะมาทำใหม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณ อยู่ๆ เทศบาลก็แจ้งมาว่าจะมาทำการปรับปรุงผิวจราจร ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีความสะดวก ประสบปัญหาฝุ่นละออง รถน้ำก็ไม่ได้รดตลอด นักเรียน ผู้ปกครองก็ลำบาก หากจะทำก็ควรจะทำในช่วงปิดภาคเรียนน่าจะดีกว่า
ข่าวน่าสนใจ:
เช่นเดียวกับถนนสายเวียนกะพัง งบประมาณก่อสร้างกว่า 16 ล้านบาท ชาวบ้านนายประพันธ์ วัดโคก ( นั่งในร้านมีร่มกาง) อายุ 75 ปี เจ้าของร้านข้าวแกง บอกว่า ตนและถนนเส้นนี้อยู่ในเขต 2 ของเทศบาลล่าสุด ถนนเวียนกะพัง ปรับปรุงล่าสุดและใช้งานมาได้ไม่เกิน 4 ปี ยังสามารถใช้การได้ดีอยู่ แต่ทางเทศบาลก็มาปรับปรุง ตนต้องปิดร้านไม่สามารถค้าขายได้ 1 สัปดาห์ โดยในเขต 2 นี้ เทศบาลทำทุกสายพร้อมกัน บางสายก็ยังดีอยู่ แต่บางสายก็ชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ ก็สมควรปรับปรุง แต่ถนนที่ดีอยู่ไม่ควรทำ
ทางด้านเครือข่ายชมรมเสียงประชาชน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนที่ทำการก่อสร้าง และเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดตรัง เพื่อให้ทำการตรวจสอบเรื่อง
โดยนายรัตน์ ภู่กลาง ประธานเครือข่ายชมรมเสียงประชา และนายจิรศักดิ์ ควนจันทร์ เลขานุการเครือข่าย บอกว่า ทางเครือข่ายเสียงประชาชนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมาเป็นจำนวนมาก ว่าได้รับความเดือดร้อนจากปรับปรุงก่อสร้างถนนพร้อมกันในปีงบประมาณ 2567 พบว่าทำมากถึง 65 สาย งบประมาณกว่า 230 บาท ถนนหลายสายยังอยู่ในสภาพดี ยังใช้งานได้อย่างดีแต่มาทำใหม่ มองว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ หากทำปีละ 20 สาย 3 ปี ก็ทำได้ 60 สาย แต่นี่มาทำในงบประมาณเดียว และทำช่วงปลายปีงบประมาณพร้อมๆ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมากติดต่อกันมาหลายเดือน ผู้ประกอบการร้านค้าริมถนนต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบการค้าขายก็ลำบาก ซึ่งบางสายร้านค้าต้องหยุดกิจการชั่วคราวนานนับเดือน มีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆมากมาก ลูกจ้างไม่มีงานทำ ทางเครือข่ายชมรมเสียงประชาชนจึงเข้ายื่นหนังสือต่อ สตง.ตรัง เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องของความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณของเทศบาลนครตรัง นอกจากนี้จะให้ฝ่ายกฎหมายของเครือข่ายชมรมฯ
ร้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้ทางเทศบาลนครตรังจ่ายค่าเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เช่น กรณีรถชาวบ้านติดยางมะตอยจากถนนที่กำลังก่อสร้าง แต่ไม่มีป้ายเตือนทำให้รถเสียหายนับพันคัน ขณะนี้ในพื้นที่เศรษฐกิจจังหวัดตรังประสบปัญหาเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก จากการก่อสร้างการทิ้งงาน การก่อสร้างล่าช้า และการก่อสร้างถนน ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างมาก จึงจะเดินหน้าฟ้องศาลปกครองต่อไปด้วย
ทางด้านนายจำเริญ ชูสุข ผู้อำนวยการกลุ่มตรวจสอบ สำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดตรัง บอกว่า ที่ผ่านมาก็ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมาแล้วเช่นกันพร้อมหลักฐานภาพถ่าย ภาพวีดีโอ ในประเด็นความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ เพราะถนนยังไม่ชำรุด หลังรับเรื่องก็เร่งส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิศวกรรมโยธาของสตง.ตรัง ซึ่งมีทั้งหมด 3 ท่าน ลงตรวจสอบในเบื้องต้นทันที เพื่อให้ทันเหตุการณ์ว่าถ้าเกิดความเสียหายแล้วเราจะได้ยับยั้งความเสียหายได้ ในการเก็บข้อมูลหลักฐาน ซึ่งต้องดูว่าใช้หลักวิชาการวิศวกรรมประเมินว่าสภาพใช้ได้หรือไม่ได้นั้นต้องดูจากหลักเกณฑ์ตัวใด เช่นถนนลาดยางต้องอายุการใช้งานเท่าใด ต้องดูสภาพพื้นที่จริงด้วย บางครั้งเรามองดูสภาพภายนอกเหมือนว่ายังใช้ได้อยู่แต่ในทางหลักวิชาการก็ถือว่าอายุการใช้งานสามารถใช้ดุลย์พินิจในการซ่อมแซมได้ จึงต้องนำมาประกอบข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายหลายหลายฝ่าย แต่ทั้งนี้ ทาง สตง. จังหวัดมีขอบเขตการตรวจสอบในด้านความเสียหาย และตำแหน่งของผู้ที่ถูกกล่าวหาในระดับนายกเทศมนตรีถือว่าเป็นตำแหน่งระดับ 9 สตง.ตรัง จึงได้ส่งเรื่องไปที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 14 ทำการตรวจสอบ ตอนนี้ในเบื้องต้นก็พบว่ามีข้อบกพร่อง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งถ้าสำนวนเสร็จอย่างไร ก็จะสามารถมาสอบถามได้ในฐานะผู้ร้องเรียน
อย่างไรก็ตาม ทางผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์นายสัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง หลายครั้ง ผ่านมือถือส่วนตัว แต่เลขานุการนายกฯ รับสาย และติดต่อผ่านทีมบริหาร ก็ได้รับคำตอบว่า นายกยังไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์ ต้องขอเวลาศึกษารายละเอียด ติดงานปีใหม่หลายเรื่อง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: