ตรัง เกษตรกรชาวสวนยางพารา ใช้เวลาว่างช่วงหยุดกรีดยาง เก็บหมากสุกทำหมากแห้ง ขายสร้างรายได้ โดยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนพฤษภาคม ของทุกปี เป็นช่วงที่ผลผลิตหมากมีมาก ชาวบ้านจึงนำเอาผลหมากสุกซึ่งปลูกไว้ในบริเวณบ้านและสวนยางพารามาผ่าตากแดดทำเป็นหมากแห้ง ซึ่งราคาหมากแห้งมีราคาสูงกว่ามากสุกหลายเท่าตัว
นางษนฤมล ทองศักดิ์ อ่ายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 ม.12 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กล่าวว่า ในช่วงปิดกรีดยางทุกปีตตนและคนในครอบครัว จะช่วยกันเก็บหมากสุก ซึ่งปลูกไว้ รอบๆบ้านมาผ่าทำหมากแห้ง โดยเริ่มทำหมากแห้งตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม เพราะช่วงดังกล่าวผลหมากจะสุกเต็มที่ และเป็นช่วงที่ฝนทิ้งช่วง ไม่เป็นอุปสรรคต่อการตากหมาก โดยวิธีการเริ่มตั้งแต่การสอยหมากที่สุกเต็มที่ ผลหมากมีสีส้มจัด ทำมาผ่าซีกและตากแดดประมาณ 5 วัน แล้วนำหมากที่แห้งจัดมาแกะเอาเปลือกด้านนอกออก แล้วนำไปส่งขายให้กับพ่อค้า ซึ่งในปีนี้หมากแห้งราคารับซ้อที่กิโลกรัมละ 30-40 บาท ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้ว ประมาณ 50 บาท ต่อ กิโลกรัม กล่าวคือปีที่แล้วคารา 50-80 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งตนคิดว่าสาเหตุที่ราคาตกต่ำน่าจะมาจากการที่มีผลผลิตหมากเยอะกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ในขณะที่ลานรับซื้อของร้านทวีศักดิ์การเกษตร เลขที่ 212/1 ถ.กันตัง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง มีเกษตรกรนำหมากแห้งมาขายเป็นจำนวนมากต่อวัน ได้นำหมากที่รับซื้อจากเกษตรกรมาคัดแยก และตากแห้งก่อนส่งขายให้ผู้ส่งออกต่อไป
นายวิทยา อารยะทรงศักดิ์ อายุ 57 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า ปีนี้ราคารับซื้อหมากหน้าลานอยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาท ซึ่งถูกกว่าปีที่แล้ว ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาหมากแห้งราคาถูกเป็นผลมาจากเศรษกิจโลกที่อยู่ในช่วงขาลง ประเทศเทศอินเดีย และ ประเทศพม่า ซึ่งเป็นตลาดรับซื้อหลักไม่มีกำลังซื้อ จึงทำให้ราคาหมากตกต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ประมาณ 50 บาท ต่อ กิโลกรัม ส่วนสาเหตุอีกอย่างที่ส่งผลต่อราคาหมากแห้งเป็นเพราะผลหมากในปีนี้มีมากกว่าปีก่อนๆ เพราะปี60 มีปริมาณฝนตกมากทำให้หมากมีผลดก
