เชิญชวนกราบขอพรหลวงพ่อโตพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ วัดผาทั่ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี จะใช้โชคลาภในสิ่งที่หวังทั้งเรื่องการเรียน การค้าขาย ส่วนคนที่รับราชการจะมาขอพรให้มียศตำแหน่งโตขึ้นเหมือนชื่อหลวงพ่อ
วันที่ 4 กันยายน 2563 เวลา 14.00 น.วันหยุดยาวชดเชยวันสงกรานต์ 4 วันติดต่อกันวันที่ 4 – 7 กันยายน นี้ หากได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวพื้นที่อำเภอบ้านไร่ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ต้องอย่าลืมไปกราบพระขอพรที่วัดผาทั่ง ตำบลห้วยแห้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ของจังหวัดอุทัยธานี ชื่อว่า “หลวงพ่อโต” ทางขึ้นไปสักการะหลวงพ่อโตจะมีพญานาคทั้ง 2 ข้าง ที่ชาวบ้านบอกว่าตามตำนานเรียกว่า “องค์เทวบุตร” ทั้งสององค์เป็นพญานาคซึ่งท่านมาปกป้องพระพุทธศาสนา ทางวัดจึงปั้นรูปท่านอยู่ทางขึ้นไปสักการะหลวงพ่อโต เทวบุตรองค์ซ้ายมือด้านทางขึ้น มีชื่อเรียกว่า “ ฉัตรบำเพ็ญสุทัศน์นาคราชนาคะ” เทวบุตรองค์ขวามือด้านทางขึ้น มีชื่อเรียกว่า “อินทรราชนาคราช” ซึ่งในแต่ละวันก็จะมีนักท่องเที่ยวมาขอพร ขอโชคลาภ ความสำเร็จ องค์เทวบุตรทั้ง 2 องค์นี้ด้วย
ก่อนที่จะเข้าไปจุดเทียนธูปหลวงพ่อโตบริเวณลานรอบองค์หลวงพ่อโตจะมีระฆังทั้งหมด 19 ใบ ให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวได้เคาะระฆังเพื่อความเป็นสิริมงคล สำหรับหลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางประทานพร หน้าตักกว้าง 23 เมตร สูง 52 เมตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุทัยธานี ก่อสร้างโดยศิษยานุศิษย์ที่นับถือเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) จากกรุงเทพมหานคร ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ สร้างเมื่อปี 2532 แล้วเสร็จเมื่อปี 2540 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 9 ปี หลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านและชาวอำเภอบ้านไร่เป็นอย่างมากและกลายเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองแห่งนี้ ถึงขนาดว่ากันว่าถ้าใครมาอำเภอบ้านไร่ ต้องมาสักการะหลวงพ่อโต วัดผาทั่ง ถึงจะได้ชื่อว่ามาถึงอำเภอบ้านไร่จริง ๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมากราบไหว้ขอพรเรื่องการเรียน การงานและค้าขาย ในส่วนคนที่รับราชการก็จะมาขอพรให้มียศ มีตำแหน่งใหญ่โตสูงขึ้น เหมือนชื่อหลวงพ่อโต ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้สมหวังดั่งใจคิด ประสบความสำเร็จได้ตามที่ขอพร ทำให้มีคนจำนวนมากมาไหว้ขอพรและแก้บนกันอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนใต้ฐานหลวงพ่อโตซึ่งเป็นห้องโถง จะประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อโตจำลอง พระประจำวันเกิดให้ได้กราบสักการะทำบุญพระประจำวันเกิดเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง นอกจากนี้ยังสามารถเดินขึ้นบันใดไปที่ชั้น 3 ฐานดอกบัวใต้องค์พระ เพื่อเดินวนรอบองค์หลวงพ่อโต หรือเป็นการเดินเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสร็จจากนั้นสามารถชมวิวทิวทัศน์มุมสูงแบบ 360 องศาฯได้อีกด้วย และหลังจากนั้นจะเดินลงมาด้านหน้าจะมีลานหิน ซึ่งไม่ใช่ลานหินธรรมดา ชาวบ้านเรียกว่าหินเจ้าที่ เป็นหินที่อยู่บริเวณลานปูนหน้าองค์หลวงพ่อโต ซึ่งทางวัดพยายามจะขุดหรือเจาะออกหลายครั้งแล้ว แต่มีอุปสรรคเสียทุกครั้ง ชาวบ้านจึงเชื่อว่าเป็นหินเจ้าที่เจ้าทางและเป็นหินให้โชคให้ลาภ ทางวัดจึงยกเลิกความคิดนำออกกลายเป็นสิ่งศักดิ์ให้บูชาตามความเชื่อมีชื่อว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ “ปู่นาคา ย่านาค”
และนอกจากนี้ยังมีศาลาบูชาพระพุทธพระปฏิมามีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของเมืองไทย เช่น พระพุทธชินราช หลวงพ่อโสธร เป็นต้น และใกล้กันยังมีศาลาบูชาบูรพาจารย์ มีพระเกจิอาจารย์ เช่น หลวงปู่ทวด สมเด็จโต หลวงปู่ศุข เป็นต้น ให้พุทธศาสนิชนและนักท่องเที่ยวได้บูชาปิดทองเพื่อความเป็นสิริมงคล ด้านทางลงยังมีวิหารเจ้าแม่กวนอิม ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเชื้อสายจีนได้กราบไหว้ขอพรรวมถึงหินศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านแห่งนี้เชื่อกันว่าเป็นหินที่อยู่คู่กับวัดมานาน ทางวัดได้ตั้งชื่อว่าปู่คาคา ย่านาคี ซึ่งหากจุดธูปขอพรแล้วจะได้สมหวังกันอย่างถ้วนหน้า โดยนักท่องเที่ยวนั้นมาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้กันอย่างต่อเนื่อง
