พลเอกประวิตรฯ ลงพื้นที่อุทัยธานี ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่
วันที่ 21 มี.ค.65 เวลา 14.30 น. ที่ หอประชุมอำเภอบ้านไร่ ตำบลบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่จะประสบภัยแล้งในจังหวัด โดยมี นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กล่าวต้อนรับ และมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอภาพรวมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคกลาง และมี นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำเสนอการบริหารจัดการน้ำแล้งด้วยระบบน้ำบาดาล และ นายจามร เหล่าเมือง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี รายงานสถานการณ์ แหล่งน้ำในจังหวัดอุทัยธานี โดยมี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร จังหวัดอุทัยธานี เขต 2 ตลอดจน หัวหน้าส่วนราชการและประชาชน ร่วมให้การต้อนรับ
ข่าวน่าสนใจ:
- ม.นครพนม จัดประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ 19 ภายใต้หัวข้อ “บูรณาการ AI and Soft Power ในการบริหารภาครัฐ”
- ศุภาลัย เปิดบ้านซีรีส์ใหม่ Tropical Modern ครั้งแรก! ในสุราษฎร์ฯ ปักหมุดแบรนด์ “ปาล์มวิลล์ โกเตง” ตอบโจทย์ชีวิตติดเมือง
- กทม. ร่วม"ฟูกูโอกะ" เปิดงาน "Fukuoka Fair" ฉลอง 18 ปีเมืองพี่เมืองน้อง
- ประชาชนแห่ เสกเหรียญหลวงปู่คำไหล ในพระมหาเจดีย์วัดดัง แห่ตีเลขน้ำตาเทียน หลังสาธุชนนับพันแห่ร่วมพิธี
จากนั้น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบาย พร้อมมอบถังน้ำให้กับนายอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ก่อนเป็นประธานปล่อยแถวทีมดับไฟป่าและขบวนรถบรรทุกน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้มอบหมายให้สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 สุพรรณบุรี นำน้ำดื่มสะอาด จำนวน 7,500 ลิตร ส่งมอบให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน จากปัญหาภัยแล้งเป็นการเบื้องต้นแล้ว โดยทาง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขการบริหารจัดการน้ำอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดภัยแล้งและเกิดความเดือดร้อนในด้านน้ำอุปโภค บริโภค ตลอดจนเร่งให้ดำเนินการบริหารจัดการในเรื่องของระบบประปาภูมิภาคของจังหวัดอุทัยธานีในจุดที่ต้องการ พร้อมกล่าวต่อว่า ทางรัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในเรื่องของปัญหาภัยแล้งและความเป็นอยู่ โดยจะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆในรอบด้านให้อย่างเต็มที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี อีกด้วย
ทั้งนี้ จังหวัดอุทัยธานี มีพื้นที่อยู่ลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำสะแกกรัง มีแหล่งน้ำทั้งหมด 1,600 แห่ง มีแหล่งขนาดใหญ่ 1 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำทับเสลา และขนาดกลาง 1 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว ปัจจุบันแหล่งน้ำทั้งหมดมีปริมาณน้ำใช้การรวมอยู่ที่ 88 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 39% ซึ่งในงบประมาณแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 65 มีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ จำนวน 32 โครงการ ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บได้ 3.52 ล้าน ลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 14,055 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 3,378 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับการป้องกันน้ำท่วม 95,000 ไร่ เช่น การก่อสร้างอาคารป้องกันตลิ่งคลองโพ อำเภอสว่างอารมณ์ และการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมชุมชนสว่างอารมณ์ ระยะที่ 2 นอกจากนี้ สทนช. ได้วิเคราะห์ กลั่นกรองแผนงาน/โครงการสำคัญของหน่วยงานต่างๆ ที่สามารถดำเนินการได้ในปี 66-67 รวม 4 โครงการ ซึ่งหากหน่วยงานดำเนินการการเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บอ่างฯห้วยขุนแก้ว การเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บอ่างฯวังร่มเกล้า โครงการอ่างฯห้วยมอโค้ และการพัฒนาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ (RBF) จังหวัดชัยนาท และ จังหวัดอุทัยธานี ได้ตามแผน จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บได้ 474.78 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 10,500 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 15,500 ครัวเรือน ซึ่งปัจจุบัน จังหวัดอุทัยธานี มีบ่อน้ำบาดาลที่สามารถใช้งานได้ จำนวน 1,579 แห่ง แบ่งเป็นบ่อน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร จำนวน 114 แห่ง และบ่อน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค จำนวน 1,465 แห่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563-2565 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลช่วยเหลือประชาชนจังหวัดอุทัยธานีผ่านโครงการต่างๆ กว่า 22 โครงการ อาทิ โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่หาน้ำยาก โครงการพัฒนาน้ำบาดาลด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อส่งเสริมเกษตพลเอกประวิตรฯ ลงพื้นที่อุทัยธานี ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ วันที่ 21 มี.ค.65 เวลา 14.30 น. ที่ หอประชุมอำเภอบ้านไร่ ตำบลบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่จะประสบภัยแล้งในจังหวัด โดยมี นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กล่าวต้อนรับ และมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอภาพรวมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคกลาง และมี นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำเสนอการบริหารจัดการน้ำแล้งด้วยระบบน้ำบาดาล และ นายจามร เหล่าเมือง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี รายงานสถานการณ์ แหล่งน้ำในจังหวัดอุทัยธานี
ดยมี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร จังหวัดอุทัยธานี เขต 2 ตลอดจน หัวหน้าส่วนราชการและประชาชน ร่วมให้การต้อนรับ จากนั้น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบาย พร้อมมอบถังน้ำให้กับนายอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ก่อนเป็นประธานปล่อยแถวทีมดับไฟป่าและขบวนรถบรรทุกน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้มอบหมายให้สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 สุพรรณบุรี นำน้ำดื่มสะอาด จำนวน 7,500 ลิตร ส่งมอบให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน จากปัญหาภัยแล้งเป็นการเบื้องต้นแล้ว โดยทาง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขการบริหารจัดการน้ำอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดภัยแล้งและเกิดความเดือดร้อนในด้านน้ำอุปโภค บริโภค ตลอดจนเร่งให้ดำเนินการบริหารจัดการในเรื่องของระบบประปาภูมิภาคของจังหวัดอุทัยธานีในจุดที่ต้องการ พร้อมกล่าวต่อว่า ทางรัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในเรื่องของปัญหาภัยแล้งและความเป็นอยู่ โดยจะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆในรอบด้านให้อย่างเต็มที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี อีกด้วย
ทั้งนี้ จังหวัดอุทัยธานี มีพื้นที่อยู่ลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำสะแกกรัง มีแหล่งน้ำทั้งหมด 1,600 แห่ง มีแหล่งขนาดใหญ่ 1 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำทับเสลา และขนาดกลาง 1 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว ปัจจุบันแหล่งน้ำทั้งหมดมีปริมาณน้ำใช้การรวมอยู่ที่ 88 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 39% ซึ่งในงบประมาณแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 65 มีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ จำนวน 32 โครงการ ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บได้ 3.52 ล้าน ลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 14,055 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 3,378 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับการป้องกันน้ำท่วม 95,000 ไร่ เช่น การก่อสร้างอาคารป้องกันตลิ่งคลองโพ อำเภอสว่างอารมณ์ และการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมชุมชนสว่างอารมณ์ ระยะที่ 2 นอกจากนี้ สทนช. ได้วิเคราะห์ กลั่นกรองแผนงาน/โครงการสำคัญของหน่วยงานต่างๆ ที่สามารถดำเนินการได้ในปี 66-67 รวม 4 โครงการ ซึ่งหากหน่วยงานดำเนินการการเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บอ่างฯห้วยขุนแก้ว การเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บอ่างฯวังร่มเกล้า โครงการอ่างฯห้วยมอโค้ และการพัฒนาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ (RBF) จังหวัดชัยนาท และ จังหวัดอุทัยธานี ได้ตามแผน จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บได้ 474.78 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 10,500 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 15,500 ครัวเรือน ซึ่งปัจจุบัน จังหวัดอุทัยธานี มีบ่อน้ำบาดาลที่สามารถใช้งานได้ จำนวน 1,579 แห่ง แบ่งเป็นบ่อน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร จำนวน 114 แห่ง และบ่อน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค จำนวน 1,465 แห่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563-2565 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลช่วยเหลือประชาชนจังหวัดอุทัยธานีผ่านโครงการต่างๆ กว่า 22 โครงการ อาทิ โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่หาน้ำยาก โครงการพัฒนาน้ำบาดาลด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ขนาดพื้นที่ 500 ไร่ โครงการพัฒนาน้ำบาดาล เพื่อความมั่นคงระดับชุมชน เป็นต้น ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก ทั้งด้านเกษตรกรรมและด้านอุปโภคบริโภค ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
จากนั้นในเวลา 16.00 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางไปเททองหล่อพระและถวายผ้าป่า ที่ วัดถ้ำเขาวง ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี รแบบแปลงใหญ่ ขนาดพื้นที่ 500 ไร่ โครงการพัฒนาน้ำบาดาล เพื่อความมั่นคงระดับชุมชน เป็นต้น ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก ทั้งด้านเกษตรกรรมและด้านอุปโภคบริโภค ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
จากนั้นในเวลา 16.00 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางไปเททองหล่อพระและถวายผ้าป่า ที่ วัดถ้ำเขาวง ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
นันทศักดิ์ วัฒนพานิช/บุญณิศา ล่าบ้านหลวง ทีมข่าวอุทัยธานี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: