อิทธิพลพายุโนรู เกิดฝนตกหนักโดยเฉพาะจากอุทยานแห่งชาติมาวงก์ มีมวลน้ำไหลบ่าตามลำแควตากแดดเหนือเขื่อนวังร่มเกล้า จังหวัดอุทัยธานี ต้องเร่งระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนรองรับมวลน้ำก้อนใหม่ ล่าสุดได้ส่งผลกระทบจากการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน ประกอบกับปริมาณน้ำเจ้าพระยาหนุนเข้ามาสมทบ จนระดับน้ำแม่น้ำสะแกกรังเริ่มเอ่อล้นตลิ่งแล้ว
เวลา 10.00 น.วันที่ 28 กันยายน 2565 โครงการชลประทานอุทัยธานี ต้องสั่งเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนวังร่มเกล้าลงสู่ท้ายเขื่อนอีกครั้ง หลังจากได้รับอิทธิพลจากพายุโนรูทำให้เกิดฝนตกหนัก โดยเฉพาะจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ส่งผลให้มีมวลน้ำจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ไหลบ่าลงสู่แม่น้ำแควตากแดดที่ไหลผ่านพื้นที่ อำเภอสว่างอารมณ์ และอำเภอทัพทัน บริเวณเหนือเขื่อนวังร่มเกล้า เพื่อรองรับมวลน้ำก้อนใหม่จากอิทธิพลพายุโนรูที่ยังเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้เขื่อวังร่มเกล้าได้มีการระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนวังร่มเกล้าโดยกประตูขึ้นหมดทั้ง 3 บาน ระบายน้ำน้ำด้วยอัตรา 154.98 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ซึ่งจากการระบายน้ำดังกล่าวส่งแม่น้ำสะแกกรังที่ไหลผ่านตัวเมืองอุทัยธานี มีระดับที่สูงขึ้น ประกอบกับมีปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาหนุนเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีมวลน้ำจากทางภาคเหนือไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์วัดอัตราไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำ C2 ( เจ้าพระยา ) นครสวรรค์ 2,329 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีแนวโน้มที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มขึ้นอีก และจะทำให้แม่น้ำสะแกกรังเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล่าสุดเช้าวันนี้ ( 28 ก.ย. ) ระดับน้ำในแม่น้ำสะแกกรังเริ่มเอ่อล่นตลิ่ง โดยเฉพาะบริเวณวัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์โบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอุทัยธานี เหลือเพียงไม่กี่ 10 เมตรก็จะทะลักเข้าท่วมบริเวณศาลา 8 เหลี่ยม ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 และมีบางจุดได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านพักอาศัยที่อยู่ใกล้ริมตลิ่งบ่างแล้ว ซึ่งได้มีคำประกาศเตือนการเฝ้าระวังติดติตามสถานการณ์จากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด
