ควายคลั่งออกจากคอกอาละวาดจะขวิดแม้กระทั่งเจ้าของที่มีอาชีพเลี้ยงควาย แถมเปิดเผยว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ ไม่อยากเลี้ยงไว้แล้ว หวั่นครอบครัวจะพลาดถูกขวิดสักวัน รุดแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ให้มาจัดการ
เวลา 18.30 น.วันที่ 10 สิงหาคม 2566นางสาวสุนารี ไวกสิกรรม อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 187/6 บ้านหนองไผ่ ชุมชน 2 อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจขอกำลังอาสากู้ภัยหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วงจับควายของตัวเองที่กำลังอาละวาดอยู่ โดยทางนางสาวสุนารีนั้นได้ใช้มือถือไลฟ์สดแล้วก็ถ่ายวีดีโอไว้ถึงพฤติกรรมของเจ้าหยุมหยิม กระบือเพศผู้ อายุ 4 ปี กำลังขวิดรั้วบริเวณคอกควายและขวิดเสาไม้อย่างคะนองหรือคลั่งซึ่งที่ถ่ายวีดีโอไว้ก็เพราะว่าอยากให้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ว่าควายตัวนี้ดุ จากนั้นทางครอบครัวได้เรียกชาวบ้านหรือเพื่อนละแวกนั้นมาช่วยกันต้อนควายเข้าคอกไปก่อนก็เพราะว่าหากอยู่ข้างนอกเกรงว่าจะมีคนได้รับอันตรายนั่นเอง ซึ่งหลังจากที่ได้ช่วยกันต้อนเจ้าหยุมหยิมเข้าคอกที่อยู่หลังบ้านพร้อมกับควายตัวอื่น ๆ อีก 10 ตัวแล้วแจ้งเรื่องไปยังทางปศุสัตว์อำเภอทัพทันเพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูให้ จากนั้น นายธนกฤติ พลอยศรี เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ฝ่ายผสมเทียมก็เข้ามาดูเจ้าหยุมหยิมที่คอกซึ่งยังมีอาการตื่นและไม่อยู่เฉยเดินไปมา แล้วก็ได้ถามนายเล็ก ไวกสิกรรม อายุ 75 ปี พ่อของนางสาวสุนารีว่าได้ใช้ไฟฟ้าเดินสายกับลวดแล้วล้อมคอกไว้หรือเปล่าซึ่งนายเล็กก็เปิดเผยว่าได้ทำการใช้ไฟฟ้าปล่อยมากับเส้นลวดไว้จริงก็เพราะว่าในเวลากลางคืนนั้นเกรงว่าควายตัวอื่นจะเดินหรือมีอาการดื้อออกมาจากคอกในเวลากลางคืนนั่นเอง
นายธนกฤติ นั้นก็ได้วิเคราะห์แล้วประเมินสถานการณ์แล้วบอกว่าเจ้าหยุมหยิมนั้นน่าจะเดินไปใกล้เส้นลวดที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้แล้วถูกไฟฟ้าช๊อตเข้าบ่อยครั้งจึงเป็นสาเหตุให้เจ้าหยุมหยิมนั้นมีอาการตื่นแบบนี้จากนั้นก็ได้ทำการนำไม้ไผ่ยาวมาเพื่อไปคล้องกับเชือกที่คอเจ้าหยุมหยิมเพื่อที่จะนำเชือกอีกเส้นหนึ่งผูกคอเจ้าหยุมหยิมไว้แล้วจะนำมาผูกกับคอกไว้เพื่อป้องกันเจ้าหยุมหยิมอาละวาดแต่ก็ต้องใช้เวลากว่า 10 นาทีจึงจะสำเร็จนำเจ้าหยุมหยิมมาผูกไว้ที่ใกล้คอกไม่ให้ดินไปไหนได้อย่าแน่นหนามาก นายธนกฤติ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอีกว่าสาเหตุนั้นน่าจะมาจากสายลวดปล่อยกระแสไฟฟ้านั่นเองแล้วเจ้าหยุมหยิมเกิดอาการเข็ดหลาบเลยเห็นหน้าเจ้าของแล้วมีอาการดุนั่นเองซึ่งจะทำการผูกควายไว้จนถึงเช้าแล้วจะให้ทางเจ้าของนั้นตัดสินใจอีกทีว่าจะยังไงดี อยู่ที่การตัดสินใจของครอบครัวเจ้าของควายหากคิดว่าไม่ปลอดภัยกับครอบครัวตามที่แจ้งเรื่องมา
โดยเพื่อนป้าอายุ 70 กว่าปีมีอาชีพเลี้ยงควายของตัวเองและแถมยังรับจ้างเลี้ยงอีกด้วยซึ่งเป็นเพื่อนบ้านมามุงดูเหตุการณ์แล้วบอกว่ามีอาชีพเลี้ยงควายทั้งครอบครัวเหมือนกับบ้านอื่นๆ ละแวกนี้ก็ไม่เคยเห็นควายอะไรที่ดุแบบนี้จนรู้สึกกลัวมากรู้สึกไม่ปลอดภัยจากควายตัวนี้เลยน่ากลัวมาก นางสาวสุนารี เจ้าของควายได้เปิดเผยถึงที่มาของกระบือหรือควายหยุมหยิมตัวนี้ว่าเจ้าของเดิมที่อยู่อำเภอบ้านไร่มีกิจการเป็นเจ้าของรีสอร์ทได้ทำการไถ่ชีวิตเจ้าหยุมหยิมมาจากนั้นก็ได้ทำการประกาศบอกว่าใครที่อยากได้ควายพ่อพันธ์นำไปผสมพันธ์ก็ขอให้บอกทางนางสาวสุนารี นั้นจึงสนใจจึงไปคุยกับเจ้าของเดิมแล้วทำสัญญาตกลงกันไว้ 3 ปีแล้วก็จะคืนเจ้าของเดิมไป แต่พอมาพักหลังจากที่เลี้ยงเจ้าหยุมหยิมแล้วเกิดอาการคลั่งอยู่บ่อยครั้งจึงไม่อยากจะเลี้ยงแล้วจึงจะติดต่อกับเจ้าของเดิมนำควายไปคืน ส่วนเรื่องสัญญาที่ทำไว้ก็น่าจะคุยกันได้ซึ่งในช่วงช้าก็จะโทรศัพท์หาเจ้าของเพื่อที่จะคุยกันเรื่องนี้ซึ่งสาเหตุที่ไม่อยากเอาเจ้าหยุมหยิมไว้ก็เพราะเกรงว่าคนในครอบครัวจะไม่ปลอดภัยซึ่งในบ้านอาศัยอยู่กันถึง 6 คนไม่รู้ว่าจะพลาดถูกเจ้าหยุมหยิมขวิดเอาวันไหนเวลาที่ปล่อยออกจากคอกมาให้กินหญ้านั่นเอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: