อุทัยธานีฝนตกไม่ทั่วฟ้า หลายพื้นที่ฝนทิ้งช่วงยาวนานต้นข้าวในแปลงนารอวันยืนต้นตายและได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ในขณะที่มีบางพื้นที่มีฝนตกลงมาและล่วงเลยฤดูการทำนามาพอสมควรยอมเสี่ยงจ้างรถดำนาข้าวเร่งดำนาล่นระยะเวลาการทำนา หวังว่าจากนี้ไปฝนจะตกลงมาจนข้าวเจริญเติบโตไปจนถึงเก็บเกี่ยว
เวลา 10.00 น.วันที่ 21 สิงหาคม 2566 เกษตรการชาวนาในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุทัยธานี ยังคงได้รับผลกระทบจากฝนทิ้งช่วงมาอย่างยาวนาน แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาบ้าง แต่หลายพื้นที่เกษตรกรชาวนายังได้รับชะตากรรมฝนไม่ตกลงมาเลย อย่างพื้นที่ตำบลทุ่งพง อำเภอหนองฉาง เกษตรกรชาวนาที่ลงมือเพาะปลูกข้าวไปไดประมาณ 2 เดือนกว่าๆ ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องการน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวให้เจริญเติบโต แต่ผลพวงของฝนทิ้งช่วงมาอย่างยาวนาน ทำให้ต้นข้าวในแปลงนารอวันยืนต้นตายเป็นจำนวนนับพันไร่ หากมีฝนตกลงมาในช่วงนี้ก็อาจจะบรรเทาเบาบาพอที่จะยืดอายุข้าวไปได้อีก แต่มีแปลงนาข้าวหลายแปลงยืนต้นตายได้รับความเสียเป็นบริเวณกว้างไปแล้ว ส่งผลกับเงินที่ลงทุนเสียเปล่า และต้องเป็นหนี้เป็นสินที่ต้องกู้เงินมาลงทุนทำนาในครั้งนี้
ในขณะที่มีบางฝนที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างพื้นที่ตำบลหนองกลางดง อำเภอทัพทัน และประกอบกับเกษตรกรชาวนาหลายรายมีแหล่งน้ำของตัวเอง แต่เนื่องจากล่วงเลยฤดูการทำนามาพอสมควร จึงยอมเสี่ยงที่จะเร่งทำนา โดยการเร่งจ้างรถดำนามาดำนาปักดำต้นกล้า แม้ว่าจะลงทุนสูงกว่าการทำนาตามปกติของชาวนา แต่เนื่องจากการจ้างรถดำนาจะสามารถล่นระยะการทำนาไปได้ถึง 15 วัน และจะสามารถป้องกันข้าวดีดข้าวเด้งได้ โดยจะต้องเสียค่าจ้างรถดำนาพร้อมกล้าข้าวส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ข้าว กข 85 และกข 95 ไร่ละ 1,600 บาท แต่ถ้ามีการแผนไว้ล่วงหน้าจะเป็นพันธุ์ข้าวของเราเองแต่เจ้าของรถดำนาจะรับเพาะพันธุ์ต้นกล้าให้ จะเหลือค่าจ้างดำนา 1,100 บาท แต่ส่วนใหญ่จะจ้างรถดำนาพร้อมพันธุ์ข้าว เพราะไม่ต้องรอพันธุ์ไปอีก 15 วัน โดยชาวนาคาดหวังว่าต่อจากนี้ไปจะมีฝนตกลงมาจนต้นข้าวจะเจริญเติบโตไปจนถึงอายุการเก็บเกี่ยวต่อไป อย่างไรก็ตามเกษตรกรชาวนาโดยเฉพาะพื้นที่ นอกเขตชลประทานได้ฝากถึงรัฐบาลใหม่ที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้ ให้เร่งรัดโครงการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึง เพราะรอความหวังนี้อย่างอย่างยาวนาน และไม่มีรัฐบาลไหนที่จะจัดหาแหล่งเพื่อการเกษตรได้อย่างทั่วถึงสักที
