มวลน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และจาลำน้ำคลองโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์ ไหลบ่าทะลักลงสู่แม่น้ำตากแดด ลงสู่เขื่อนวังร่มเกล้า โครงการชลประทานอุทัยธานี ต้องจัดเจ้าหน้าบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสมรักษาระดับเก็บกัก และระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อน และระบายน้ำไปตามคลองส่งน้ำฝั่งซ้ายช่วยพื้นที่นาข้าวเขตจังหวัดนครสวรรค์ และเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม.
เวลา 09.00 น.วันที่ 9 ตุลาคม 2566 จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ผ่านมาโดยเฉพาะแม่น้ำตากแดดเหนือเขื่อนวังร่มเกล้า แล้งยาวนานข้ามปี ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรนาข้าวเกษตรกรไม่มีน้ำทำนา แต่ล่าสุดสถานการณ์ภัยแล้งคลี่คลายลงแล้ว หลังจากมีฝนตกในพื้นที่ทำทำให้มีปริมาณน้ำสะสม ประกอบกับมีมวลน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และลำน้ำคลองโพธิ์ไหลบ่าทะลักลงแม่น้ำแควตากแดดที่ไหลผ่านพื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ และอำเภอทัพทัน พื้นที่เหนือเขื่อนวังร่มเกล้าเพียง 2 วัน ส่งผลให้แม่น้ำแควตากแดดปริมาณน้ำเต็มลำน้ำ ก่อนที่จะไหลลงสู่เขื่อนวังร่มเกล้า และมีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทางโครงการชลประทานอุทัยธานี ตังมีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำตลอด 24 ชม. ซึ่งต้องไดมีการบริหารจัดน้ำอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เหนือเขื่อนในพื้นที่อำเภอทัพทัน และพื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ และพื้นที่ท้ายเขื่อนในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี โดยมีการระบายน้ำทางประตูระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนวังร่มเกล้า โดยการยกประตูระบายน้ำ 1 บาน จาก 3 บาน สูงจากธรณี 10 ซม. ระบายน้ำ 17.05 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือวันละ 1,473,120 ลูกบาศก์เมตร รวมทั้งมีการระบายน้ำไปตามคลองส่งน้ำฝั่งซ้ายตามระบบชลประทาน เพื่อไปช่วยพื้นที่นาข้าวในเขตพื้นที่อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ที่ได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าว
อย่างไรก็ตามทางโครงการชลประทานอุทัยธานี ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม.หากมีมวลน้ำป่าไหลทะลักเพิ่มขึ้นมากก็จะมีการยกประตูระบายน้ำให้สูงขึ้นเพื่อระบายน้ำเพิ่มขึ้นและจะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน และขอแจ้งเตือนประชาชนที่มีพื้นที่อยู่อาศัยใกล้ริมตลิ่งหรือพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วม ให้เฝ้าติดตามข่าวสารแจ้งคำประกาศเตือนจากหน่วยราชการอย่างใกล้ชิด แต่สถานการปัจจุบันยังถือว่ารับมือได้อยู่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: