ชาวบ้านร้องนายกอบต.ดอนขวาง อ.เมือง จังหวัดอุทัยธานี ตรวจสอบมีมือดีปักเสาคอนกรีตลักษณะเป็นเสารั้วปิดกั้นทางสาธารณเข้า – ออก เดือดร้อนไม่สามารถนำรถเข้าไปเกี่ยวข้าวที่สุกงอมเต็มที่หวั่นฝนตกหนักได้รับความเสียหาย ขอให้เร่งถอนเสาออกโดยด่วน เตรียมบุกศาลากลางร้องศูนย์ดำรงธรรม ด้าน นายก อบต.เผย ได้ทำหนังสือแจ้งให้มารื้อถอนเสาแล้ว หากไม่ดำเนินการจะดำเนินคดี
นายอุทิศ อรุณศิริ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนขวาง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการปิดทางเข้าออกทางสาธารณในหมู่บ้า โดยมี ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ หมูที่ 5 และชาวบ้าน บ้านดอนขวาง ตำบลดอนขวาง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ที่ร้องเรียนกรณีดังกล่าว และกำลังได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนัก ซึ่งมีอาชีพทำนา ได้นำพานายก อบต.ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีเจ้าของที่ดินแปลงหนึ่ง เป็นชาว กทม.ซึ่ง มีพื้นที่ติดกับเส้นทางสาธารณประโยชน์ ได้ทำการปักเสาคอนกรีตลักษณะเป็นเสารั้วปิดกั้นทางสาธารณประโยชน์ ทำให้ชาวบ้าน ไม่สามารถนำรถเกี่ยวข้าวเข้าไปเกี่ยวข้าวในแปลงนาได้ รวมทั้งยังทำให้ชาวนาอีกหลายราย ไม่สามารถนำรถอีแต๊กบรรทุกเครื่องสูบน้ำเข้าไปติดตั้ง ดึงน้ำเข้า-ออกจากแปลงนาข้าวได้ ส่งผลให้ชาวนาได้ความเดือดร้อนอย่างหนักนั้น
สำหรับจุดที่ผู้บุกรุก นำเสาคอนกรีตมาปิดกั้นเส้นทางสาธารณนั้น เป็นทางแยกจากถนนสายเข้าหมู่บ้าน โดยทำการปักเสาบนเส้นทางสาธารณประโยชน์ไว้ทั้งหมด 4 ต้น ด้านซ้ายจะเป็นแปลงที่ดินของนายทุนที่มาซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้าน มีเนื้อที่ 4 ไร่เศษ มีการล้อมรั้วแล้ว ส่วนตรงกลางจะเป็นเส้นทางสาธารณประโยชน์ และทางด้านขวาจะเป็นลำคลองธรรมชาติ ที่ยังคงมีปริมาณน้ำไหลตลอดเวลา โดยกลุ่มชาวบ้านยังได้ชี้ให้ดูหมุดหลักเขตที่ดินสาธารณ ที่ฝังเอาไว้เป้นหลักฐานอย่างชัดเจน โดยมีเสาหลักเขตที่ดินอยู่ติดกับเส้นทางสาธารณประโยชน์ นอกจากนี้กลุ่มชาวบ้านยังพบว่า ยังมีเสาคอนกรีต จำนวนหลายต้นและกระสอบทราย ถูกวางไว้บนเส้นทางดังกล่าวจุดหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะทำการปักเสาคอนกรีต เพื่อปิดกั้นที่บริเวณทางด้านท้ายแปลงที่ดิน เพิ่มขึ้นอีกจุดหนึ่งอีกด้วย
ด้านนางประทวน แข็งธัญกรณ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/3 ม.5 บ้านดอนขวาง อ.เมืองอุทัยธานี ผู้ร้องเรียนกับ อบต. ได้เปิดเผยว่า เส้นทางสายนี้เป็นทางสาธารณประโยชน์ที่ชาวบ้านในชุมชนใช้ร่วมกันมานากว่า 30 ปี แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีผู้นำเสาคอนกรีตมาทำการปิดกั้นเส้นทางสาธารณ เมื่อช่วงเย็นเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา ทำให้ตนถึงกับตกใจมาก เพราะไม่สามารถจ้างรถเกี่ยวข้าว ให้เข้ามาเกี่ยวข้าวในแปลงนา ที่อยู่ทางช่วงท้ายได้ โดยรวงข้าวกำลังเหลืองอร่าม บนเนื้อที่ 18 ไร่ เลยระยะเวลาการเก็บเก็บมา 5 วันแล้ว หากมีฝนตกลงมารวงข้าวจะจมน้ำ ขายไม่ได้ราคา อีกทั้งยังปลูกไม้ผลไว้ จะนำออกไปขายก็ขนไปไม่ได้ จึงอยากวอนให้ราชการเข้ามาแก้ไขปัญหาเอาเสาออก ให้อย่างเร่งด่วน ทั้งที่ตนเองทำนา เข้าออกมานานกว่า 30 ปีแล้ว
ด้านนายอุทิศ อรุณศิริ นายก อบต.ดอนขวาง อ.เมืองอุทัยธานี ได้กล่าวว่า ได้มีการรังวัดและชี้แนวเขตมาอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ที่มาซื้อที่ดินนั้นเขาไม่คำนึงถึงหลักเขต แต่เขาบอกที่ของเขาถึงลำคลอง ซึ่งถือว่าเป็นการบุกรุกที่สาธารณ ทั้งที่เราได้มีการกันเส้นทางสาธารณประโยชน์ไว้อย่างชัดเจนแล้ว เพื่อให้ชาวบ้านคนในชุมชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งยังมีหลักฐานหมุดแบ่งเขต ไว้อย่างชัดเจน เส้นทางสาธารณสายนี้ชาวบ้านเดินกันมานาน 30-40 ปี ทำให้ชาวบ้านเข้ามาไม่ได้ ได้รับความเดือดร้อน เรื่องนี้ อบต.ดอนขวาง ได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ที่มาซื้อที่นารายนี้ ให้มาทำการถอนเสาที่ปิดกั้นทาง ออก ถ้าไม่ยินยอมทำตาม อบต.ก็จะดำเนินแจ้งความดำเนินคดี พร้อมกับให้ปรับสภาพดิน ให้อยู่ในสภาพที่เป็นทางสาธารณประโยชน์สำหรับประชาชนใช้ร่วมกัน หากเพิกเฉยหรือไม่ดำเนินการใดๆ อบต.ดอนขวาง อาจพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับผู้ที่ถูกชาวบ้านร้องเรียนบุกรุกที่สาธารณรายนี้ มีภูมิลำเนาอยู่ กทม. โดยได้ซื้อที่ดินซึ่งมีพื้นที่ติดกับเส้นทางสาธารณประโยชน์ มาจากการขายทอดตลาดของสหกรณ์การเกษตรทัพทัน จำกัด จำนวน 4 ไร่เศษ
และหว่างที่มีการเข้าตรวจสอบของนายก อบต. และเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดที่ร้องเรียนมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้มีคนสนิทของเจ้าของที่ดิน ซึ่งเป็นในชุมชนมาสังเกตุการณ์ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นหูเป็นตาให้อีกด้วย และในวันนี้เอง กลุ่มชาวบ้านจะรวมตัวกันไปที่ศูนย์ดำรงธรรม ศากลาง จ.อุทัยธานี เพื่อร้องเรียนเรื่องดังกล่าว อีกทางหนึ่ง เนื่องจากเป็นปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่ต้องการให้ภาครัฐ เข้ามาแก้ไขอย่างเร่งด่วน มิเช่นนั้นนาข้าวที่เลยระยะเวลาเก็บเกี่ยวจะเสียหายหนักได้ อย่างไรก็ตามชาวบ้านได้วิพากวิจารย์ ว่า เหตุการณ์การปักเสาคอนกรีตบนเส้นทางสาธารณนั้น น่าจะเป็นการบีบบังคับทางอ้อม ให้ชาวบ้านขายที่ดินให้ เพราะจะทำให้เป็นที่ดินแปลงใหญ่ เนื่องจากมีแหล่งน้ำดีและดินดี ประกอบกับอยู่ลึกเข้ามาจากถนนสายหลัก ไม่ไกลนัก หากสามารถกว้านซื้อที่ดินแถบนี้ได้ ถือเป็นแปลงที่ดินที่สวยมาก
