สถิตในใจนิรันดร์อดีตตากล้องถ่ายหนังขายบ้านกลางกรุง เปิดแกลเลอรีรวม “เพลงของพ่อ” มากสุดในไทย
ผู้สื่อข่าวได้ไปพบ นายพสกวัฒน์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต เจ้าของสายฝนแกลเลอรี ริมทุ่งน้ำซึม อ.เมืองอุทัยธานี คนที่ไปแล้วต่างประทับใจกันทุกรายเมื่อพบว่าภายในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งนี้ ไม่เพียงแต่จะมีกาแฟที่กลมกล่อมเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมบทเพลงพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ไว้มากที่สุดในเมืองไทยด้วยผู้ที่รวบรวมผลงานเพลงพระราชนิพนธ์เหล่านี้มาเปิดแกลเลอรีสายฝนคืออดีตชายที่อยู่ในวงการถ่ายทำหนัง ภาพยนตร์ ผู้ที่ชื่นชอบเพลงพระราชนิพนธ์ เก็บรวบรวมเพลงพระราชนิพนธ์ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 มาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี ทั้งศึกษา เสาะหา และรวบรวมข้อมูล จนรวบรวมเพลงพระราชนิพนธ์ที่มีทั้งแผ่นครั่งหรือแผ่นเสียงเก่า แผ่นซีดี เทป รวมไปถึงหนังสือพระราชนิพนธ์ ไว้มากที่สุดในเมืองไทยก่อนที่จะตัดสินใจออกจากงานประจำมาทำตามฝันสร้างแกลเลอรี พร้อมคาเฟ่เล็กๆ ที่จังหวัดอุทัยธานี ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อให้คนไทยในปัจจุบันและลูกหลานรุ่นหลังได้ดูว่าเพลงพระราชนิพนธ์ในสมัยรัชกาลที่ 9 นั้นมีบทเพลงใดบ้าง และมีความไพเราะมากที่สุดนายพสกวัฒน์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต เจ้าของสายฝนแกลเลอรีและคาเฟ่เล็กๆ กลางทุ่งอุทัยธานี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพถ่ายทำภาพยนตร์มากว่า 20 ปี แต่ด้วยความชื่นชอบเพลงพระราชนิพนธ์มาตั้งแต่เด็ก พอโตมาก็เริ่มเก็บรวบรวมเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ จนสะสมไว้ได้กว่า 400 ชิ้น มากที่สุดในเมืองไทย รวมถึงแผ่นเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ชุดแรกของประเทศไทย80 เปอร์เซ็นต์ของแผ่นเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ที่ผมเก็บรวบรวมไว้นั้นไม่มีจำหน่าย เป็นของที่หายากในปัจจุบัน เนื่องจากส่วนใหญ่จัดทำขึ้นในวโรกาสต่างๆ และแจกจ่ายให้แก่หน่วยงานราชการเท่านั้น”
กระทั่งชีวิตการทำงานประจำถึงจุดอิ่มตัว จึงตัดสินใจออกจากงาน ขายบ้านที่กรุงเทพฯ และมาซื้อที่ดินของชาวบ้านเขตชานเมือง มาเป็นชาวอุทัยธานีเต็มตัว เพราะเคยมาเที่ยวที่นี่แล้วประทับใจ แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่อยู่แล้วมีความสุข สามารถใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย ได้อยู่กับธรรมชาติไปพร้อมๆ กับการได้ทำสิ่งที่รักจากนั้นได้ลงทุนปลูกบ้าน สร้างแกลเลอรีและร้านกาแฟเล็กๆ ตามที่ฝันไว้ พร้อมตั้งชื่อ “ร้านสายฝน” ซึ่งมาจากหนึ่งในเพลงพระราชนิพนธ์ ซึ่งแกลเลอรีแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สามารถเข้ามานั่งชมบทเพลงพระราชนิพนธ์กันได้ หรือดื่มกาแฟไปด้วยพลางๆนายพสกวัฒน์บอกว่า หากยังอยู่ในกรุงเทพฯ ก็คงไม่มีโอกาสได้นำสิ่งเหล่านี้ออกมาให้ทุกคนได้ชม เพราะไม่มีสถานที่ พอได้มาอยู่ที่อุทัยธานีก็สามารถนำของล้ำค่านี้ออกมาให้ทุกคนได้ชม รวมทั้งในยุคสมัยของพ่อนั้นเป็นสถาปนิก ได้มีโอกาสเป็นผู้ที่ออกแบบพระตำหนักให้สมเด็จย่าทั่วประเทศ เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของครอบครัว จึงอยากที่จะเดินตามรอยพ่อหลวง ใช้ชีวิตบนความพอเพียง และได้ทำตามความฝันในการสร้างบ้านหลังนี้ที่มีแต่เพลงของพ่อร้านสายฝนแกลเลอรีเปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ตั้งอยู่กลางทุ่งนาในบรรยากาศของวิถีชาวอุทัยฯ ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลน้ำซึม อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งในตอนนี้เป็นเวลา 3 ปีแล้วที่เปิดมายังคงได้รับการตอบรับจากชาวอุทัยธานีเป็นอย่างดี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: