น้ำพริกลุงวินัยป้าสาวจากทำขายทีละกระมังเล็กๆ ขยายกิจการเป็นวิสาหกิจชุมชนทีเด็ดน้ำพริกแมงดาป่ายอดสั่งเยอะจนทำแทบไม่ทันทั้งนำไปขายต่อและบริโภคจนสร้างชื่อเสียงสร้างอำเภอทัพทันเป็นที่รู้จัก
บ้านเลขที่ 50 บ้านดอนกระชาย ตำบลทุ่งนาไทย อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี เป็นที่ผลิตน้ำพริกหลากหลายชนิดโดยทุกวันจะมีการย่างปลาดุกจำนวน 2-3 ตันกว่าจนมีควันเตาถ่านที่ใช้ย่างปลาลอยคลุ้งไปทั่วแต่ก็ไม่ได้รบกวนใคร เพราะอยู่ท้ายทุ่งนาของหมู่บ้าน ไม่มีเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน นายวินัย พานิช อายุ 71 ปี และนางบุญชู เกิดศรี อายุ 70 ปี เจ้าของน้ำพริกลุงวินัยและป้าสาว เปิดเผยว่าเดิมทีนั้นทำขายเองในหมู่บ้านเพียงครั้งละกระมังเล็กๆ เท่านั้นต่อมาด้วยรสชาติหรือน้ำมือของป้าสาวนั้นอร่อย ต่อมาจากรุ่นแม่อีกทีหนึ่งจึงขยายกิจการเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนของชาวเกษตรขึ้นมาและมีคนในหมู่บ้านมาทำงานกว่า 30 คนซึ่งเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพและให้คนในหมู่บ้านนั้นมีงานทำโดยไม่ต้องออกไปหารับจ้างที่ไหนให้ลำบากในแต่ละวันโดยแยกแผนกกันอย่างมีระเบียบ และน้ำพริกของลุงวินัย ป้าสาวนั้น มีแมงดาปลาย่าง น้ำพริกเผาผัดกากหมู แมงดาป่า น้ำพริกเผาผัดหมูและกุ้ง น้ำพริกปลาร้าผัด น้ำพริกเปา นรกแมงดา ซึ่งในแต่ละวันนั้นคนงานนั้นก็จะช่วยกันทำน้ำพริกตั้งแต่ปิ้งปลาดุกให้เหลืองสวย เพื่อเตรียมไว้และแกะก้างออกให้เหลือแต่เนื้อกับหนัง และบดเป็นส่วนผสมหลักของน้ำพริกนรกแมงดา แมงดาปลาย่าง แมงดาป่า ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้ยอดสั่งจองนั้นขายดีมากและใช้แมงดาวันละกว่า 500 กิโลกรัม ส่วนใครที่ทำน้ำพริกเผาประเภทต่างก็ผัดน้ำพริกอยู่ในโรงครัวเพื่อให้ทันต่อยอดสั่งจองซึ่งมีทุกวันไม่เคยมีวันหยุด ส่วนใครที่ทำน้ำพริกป้าแมงดาก็จะแยกแผนกต่างหากออกมาเพราะผู้ที่มาทำน้ำพริกแต่ละประเภทนั้นมีความชำนาญไม่เหมือนกัน หรือรสมือที่ทำน้ำพริกแตกต่างกันไปจึงต้องแยกผู้ที่ทำแต่ก็ใส่ใจในการทำทุกขั้นตอน โดยมีลุงวินัยและป้าสาวคอยดูอยู่ตลอดเวลา ซึ่งน้ำพริกแต่ละประเภทนั้นรสชาติจะคงที่สม่ำเสมอด้วยสูตรที่ป้าสาวนั้นคิดขึ้นมาเองตั้งแต่ยังเป็นร้านเล็กยังไม่ได้ขยายกิจการจนใหญ่เหมือนทุกวันนี้ซึ่งการันตรีการทำน้ำพริกมากว่า 20 ปีแล้ว
โดยลูกค้าที่มาซื้อนั้นมีทั้งซื้อไปขายต่อและนำไปรับประทานและเป็นของฝาก และมีกลุ่มลูกค้ากว้างขวางแทบทุกจังหวัด จนทำให้อำเภอทัพทัพนั้นมีชื่อเสียง หากใครมายังอำเภอนี้ก็ต้องนึกถึงน้ำพริกลุงวินัยและป้าสาวซึ่งต้องแวะซื้อไปรับประทานและเป็นของฝาก ซึ่งน้ำพริกแต่ละอย่างนั้นขายในราคากิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งทางร้านนั้นจะตักน้ำพริกไว้ถุงละครึ่งกิโลกรัมไว้เป็นส่วนใหญ่ก็คือถุงละ 100 บาทโดยนิยมซื้อแบบครึ่งกิโลมากกว่าเพราะซื้อได้หลายน้ำพริกไปลองรับประทานกัน จากการสอบถามลูกค้าที่มาซื้อนั้นบอกว่าน้ำพริกของลุงวินัยและป้าสาวนั้นเป็นน้ำพริกที่ไปคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยแล้ว หากมีผักสดหรือไข่ต้มไข่ทอดก็จะยิ่งเพิ่มความอร่อยขึ้นไปอีก และยังเพิ่มความสะดวกในการซื้อในตอนนี้ทางลุงวินัยและป้าสาวนั้นได้ทำร้านขึ้นที่หน้าโรงงานทำกลักกิโลเมตรที่ 15 ถนนอุทัยธานีไปยังอำเภอทัพทันก็จะเห็นร้านอยู่ข้างทางและป้ายอย่างชัดเจนหรือใครจะโทรสั่งซื้อก็ที่เบอร์โทรศัพท์ 093-7615729และที่เบอร์ 088-1516285 โดยเปิดขายตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเย็นทุกวัน ซึ่งป้าสาวยังบอกอีกว่าทุกน้ำพริกที่ทำขึ้นมานั้นรสชาติยังคงเป็นเอกลักษณ์แบบไทยๆ จะต้องมีกลิ่นหอมรสชาติพอดีแต่ยังคงเผ็ดร้อนซึ่งแน้นรสชาติของคนไทยที่คุ้นเคยมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่และยอดสั่งในแต่ละวันนั้นกว่า 4,000 กว่ากิโลกรัมเลยทีเดียว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: