ไฟใหม้แพวอด 2 หลัง เจ้าของหวิดถูกย่างสดกระโดดหนีตายไม่เหลืออะไรติดมือมาด้วย มีเพียงแมวหนึ่งตัวที่ช่วยออกมาได้ ข้าวของวอดอยู่ในกองเพลิง สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
เวลา 11.00 น.วันที่ 28 มิถุนายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ได้รับแจ้งว่ามีไฟให้แพบริเวณที่เกิดเหตุในแม่น้ำสะแกกรัง บ้านน้ำตก ตำบลสะแกกรัง เลยวัดอุโบสถารามไปประมาณ 300 เมตร ตรงข้ามกับตลาดเทศบาลเมืองอุทัยธานี จึงรุดไปตรวจสอบพบแพของนางสายหยุด มากวง อายุ 67 ปี กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงเพราะมีลมพัดช่วยทำให้ไฟนั้นลุกลามอย่างรวดเร็วจากนั้นแพหลังดังกล่าวเชือกที่ผูกไว้เพื่อไม้ให้แพนั้นไหลไปกับน้ำเกิดถูกไฟที่ไหม้อยู่เผาจนขาดแพจึงลอยมาติดกับแพของนายสมพร กองมีอายุ 67 ปีซึ่งกำลังนั่งอยู่ในแพของตัวเองจากนั้นคนที่อยู่บนฝั่งที่มามุงดูเหตุการณ์ก็ตะโกนให้ออกมาจากแพก่อน เพราะแพอีกหลังที่ไฟใหม้นั้นกำลังลอยมาใกล้แล้ว จากนั้นนายสมพร นั้นก็พายเรือเรือมายังฝั่งด้วยความปลอดภัยแต่ด้วยความตกใจและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้คว้าข้าวของอะไรติดไม้ติดมือมาเลยด้วยซ้ำ มีเพียงกางเกงสีเหลืองที่ใส่อยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น จากนั้นทางตำรวจก็ช่วยกันดึงแพให้ออกจากแพของนางสายหยุดที่กำลังลอยมาติดกับแพของนายสมพร แต่ด้วยเปลวไฟที่ลุกโชนอย่างรวดเร็วมากจึงลามมาติดแพของนายสมพรจนลุกท่วมจนวอด และมีเสียงถังแก็สระเบิดติดต่อกันถึง 2 ครั้งก็เพราะว่าแพทั้งสองหลังนั้นซื้อแก๊สไว้ทำอาหารนั่นเอง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลเมืองอุทัยธานีก็มาพร้อมกับรถดับเพลิง แต่ด้วยทางเข้าที่ไม่สามารถนำรถดับเพลิงที่มีขนาดใหญ่เข้าไปได้ จึงใช้วิธีต่อสายดับเพลิงมาแต่ก็สายเกินไปแล้วแพทั้งสองหลังนั้นวอดจนหมด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสากู้ภัยและดับเพลิงช่วยฉีดน้ำสะกัดไม่ให้ไฟนั้นลุกโชนโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงเพลิงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดับลงเลย
ขณะเดียวกันทางญาติของนางสายหยุดนั้นมาดูเหตุการณ์ ซึ่งยังเป็นเจ้าของแพอีกหลังบอกว่านางสายหยุด นั้นออกไปทำธุระที่อำเภอหนองขาหรือไม่ก็ไปขายของตระเวณขี่รถสามล้อแดงแล้วบรรทุกของไปขายตามที่ต่างๆ และตอนนี้ทางนางสาวหยุดนั้นรู้แล้วว่าไฟไหม้แพของตัวเองจนหมดทั้งหลังและกำลังกลับมาดู แต่ก็คงไม่ทันแล้วอย่างแน่นอน ซึ่งทางญาติของนางสายหยุดนั้นบอกว่าน่ากลัวมาก พอมาเห็นและห่วงว่าแพของตัวเองจะไหม้ไปด้วยซ้ำ จึงรับมาดูแต่ยังเคราะห์ดีที่ไฟนั้นไม่ลุกลามไปต่อ จากนั้นคุณป้าก็มีทีท่าจะเป็นลมล้มพับไปจนคนที่มามุงดูต้องประคองป้าไปพักก่อน ส่วนนายนายสมพรนั้นนั่งมองแพของตัวเองอยู่ด้วยความเสียใจและเสียดายและหมดหวัง เสียดายข้าวของที่อยู่ในแพมากและไม่มีอะไรเหลือแล้วมีเพียงตัวเองกับแมวอีกหนึ่งตัวที่รอดมาได้ ซึ่งหากยังอยู่ในแพก็เกรงว่าถังแก็สจะระเบิดทำให้ตัวเองได้รับอันตรายจึงรีบออกมาตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรอดมาได้ หากไม่เช่นนั้นก็จะถูกย่างสดอย่างแน่นอน โดยเบื้องต้นนั้นสาเหตุมาจากไฟฟ้านั้นลัดวงจรจากแพของนางสายหยุด ไฟเกิดติดกับตัวแพที่เป็นไม้จากนั้นตัวแพก็ลอยไปติดกับแพของนายสมพรดังที่กล่าวมา โดยเบื้องต้นมุลค่าความเสียหายแพทั้งสองหลังเจ้าหน้าที่ประเมินอยู่ที่ 400,000 กว่าบาทแต่มีคุณค่าทางจิตใจเพราะนายสมพรบอกว่าอยู่มาชั่วชีวิตก็มีแพหลังนั้นที่คุมแดดคุมฝนให้กับครอบครัวของตัวเองและอยู่มากว่า 50 ปีแล้วและในตอนนี้ไม่เหลืออะไรสักอย่างเลย และยังไม่รู้ว่าจะนอนยังไงเลยคืนนี้ ขณะเดียวกันนางสายหยุด มากวง อายุ 67 ปีแพต้นเพลิงที่เกิดเหตุกำลังรับมาดูแพของตัวเองและมาให้การกับเจ้าหน้าที่นั่นเอง ซึ่งคาดว่าพอมาเห็นแพของตัวเองน่าจะเสียใจไม่แพ้กับนายสมพรอย่างแน่นอน
