ผู้ปกครองนับ 100 คน รวมตัวขับไล่ ผอ.โรงเรียน หลังทนพฤติกรรมสุดแย่ไม่ไหว เรียกครูมาคุยเรื่องส่วนตัวจนไม่ได้สอนเด็ก ไม่พอใจก็ไม่เซ็นอนุมัติงบประมาณ ชอบใช้คำดูถูกเหยียดหยามครูและเด็ก
เวลา 08.00 น.วันที่ 30 สิงหาคม 2567 ที่ โรงเรียนบ้านหนองเมน ตำบลหนองยายดา อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี โรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษา มีเด็กนักเรียนรวมประมาณ 120 คน มีกลุ่มผู้ปกครองนับ 100 คน เดินทางมาถือป้ายประท้วงขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเป็น ผอ.ชาย อายุ 53 ปี หลังทนพฤติกรรมด้านลบที่ตัวผอ.รายนี้มีต่อครูและเด็กนักเรียนไม่ไหว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามครู ผู้ปกครองและเด็ก รวมไปถึงการเรียกครูไปนั่งพูดคุยเรื่องส่วนตัวในเวลาที่ต้องสอนนักเรียนกว่าชั่วโมง จนทำให้เด็กไม่ได้รับการเรียนการสอน รวมไปถึงการไม่ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมที่ดีของเด็กนักเรียน ไม่ยอมเซ็นอนุมัติงบประมาณต่างๆ จนทำให้บางครั้งครูต้องจ่ายเงินสำรองค่าอาหารกลางวันกันเอง เนื่องจาก ผอ.ไม่ยอมเซ็นอนุมัติให้ หวั่นเสียโรงเรียนแห่งสุดท้ายของตำบลไปเพราะ ผอ.รายนี้
โดย นายเดช กลัดสี อายุ 70 ปี หนึ่งในตัวแทนผู้ปกครองเด็กนักเรียน และเป็นประธานกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า สาเหตุที่ผู้ปกครองเดินทางรวมตัวกันมาขับไล่ผอ.ในครั้งนี้เนื่องจากทนพฤติกรรมที่ไม่ดีของผอ.รายนี้กันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ตลอดระยะเวลาที่มาดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการที่โรงเรียนแห่งนี้ มีพฤติกรรมการพูดจาดูถูกส่อเสียดเหยียดหยามทางคณะครูผู้ปกครองและเด็กนักเรียนต่างๆนาๆรวมไปถึงยังใช้อารมณ์ในการดูแลบริหารสถานศึกษาช่วงเวลาที่ครูต้องทำการสอนเด็กนักเรียนก็มีการเรียกครูเข้าไปพูดคุยเรื่องส่วนตัวกันนานหลายชั่วโมงจนทำให้คุณครูไม่สามารถมาสอนเด็กได้จนทำให้เด็กๆ ที่โรงเรียนนั้นไม่ได้รับการเรียนการสอนเหมือนปกติซึ่งหากปล่อยไว้เรื้อรังเช่นนี้อาจจะทำให้เด็กๆ นักเรียนที่นี่ไม่ได้รับการเรียนการสอนได้ดีเช่นเดิมทางตนเองและคณะผู้ปกครองทุกคนจึงเห็นพ้องต้องกันว่าทางตนเองและคณะผู้ปกครองทุกคนจึงเห็นพ้องต้องกันว่าควรที่จะรักษาโรงเรียนโรงสุดท้ายของตำบลหนองยายดาไว้เพื่อให้ลูกหลานของเราได้มีสถานศึกษาใกล้บ้านไว้ศึกษาต่อไปไม่ต้องไปเรียนไกลถึงอำเภออื่นๆ แต่ถ้าหาก ผอ.รายนี้ยังมีพฤติการณ์แห่งนี้ก็หวั่นใจว่าโรงเรียนนี้จะถูกยุบลงจนทำให้ตำบลหนองยายดาไม่เหลือสถานศึกษาเอาไว้ให้ลูกหลานได้เรียนกันอีกต่อไปเลย
ด้านหนึ่งในผู้ปกครองของเด็กนักเรียนซึ่งเป็นกลุ่มเด็กพิเศษก็ได้เปิดเผยทั้งน้ำตาว่าลูกตนเองนั้นมาเรียนที่โรงเรียนและร่วมเรียนกับเพื่อนอย่างปกติสุขมาโดยตลอดแต่หลังจากที่ ผอ.รายนี้มาดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนก็ได้มีการสั่งแยกลูกตนเองให้เป็นเด็กพิเศษและไม่ให้เรียนร่วมกับเพื่อนๆเหมือนเช่นเคยและหนักสุดคือสั่งห้ามไม่ให้ลูกของตนเองนั้นมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้อีกแล้วโดยให้เหตุผลว่าลูกตนเองนั้นไม่สามารถทำการเรียนรู้ได้ จนทำให้ตอนนี้ลูกตนเองไม่ได้เรียนหนังสือมากว่า 1 เทอมแล้วจึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายของตนเองได้กลับมาเรียนหนังสือได้รับความรู้กลับมาสดใสได้เรียนและเล่นร่วมกับเพื่อนเหมือนเด็กคนอื่นๆ อีกครั้ง
ทางด้านนายเสรี ขามประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานีเขต 1 พอได้รับทราบความเดือดร้อนของคณะครู ก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่จะไปรับฟังข้อเท็จจริง ในโรงเรียนซึ่งมีท่านรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ท่านประธานกลุ่มโรงเรียน และนิติกร ที่จะลงไปที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและถ้าหากว่าสถานการณ์หรือความเดือดร้อนเข้าข่ายที่มีความรุนแรงก็อาจจะต้องเรียกตัวท่านผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นเข้ามาปฏิบัติงานที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นการชั่วคราวก่อน แล้วดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการของการที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งฝ่ายผู้บริหารสถานศึกษาและกับฝ่ายคณะครูนักเรียนที่อ้างว่าได้รับความเดือดร้อนด้วย
