ผลกระทบเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มในอัตรา 1,449 ลูกบาศเมตรต่อวินาที เพื่อลดช่องว่ารอรับมวลน้ำเหนือก้อนใหม่ ในขณะที่อัตราน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 ( เจ้าพระยา ) จังหวัดนครสวรรค์ เพียง1328 ลูกบาศก์ต่อวินาทีเท่านั้น ส่งผลให้แม่น้ำสะแกกรังลดฮวบไม่ทันตั้งตัว เรือนแพพักอาศัยไม่ทันตั้งตัวชักลากแพลงร่องน้ำลึกไม่ทัน หลายเรือนแพเกยตื้นค้างบนเนินดิน หวั่นลูกบวบทุนลอยแพได้รับความเสียหาย
วันที่ 11 กันยายน 2567 สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวัดอัตราไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำ C2 ( เจ้าพระยา ) จังหวัดนครสวรรค์ ที่ 1,328 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่าลดลงมาก และไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดอุทัยธานี แต่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ได้มีการระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนในอัตรา 1,449 ลูกบาศเมตรต่อวินาที เพื่อลดช่องว่างของแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเป็นการรองรับมวลน้ำก้อนใหม่ที่คาดว่าจะมีมวลน้ำไหลหลาหมาอีก ซึ่งถือว่าป็นการระบายน้ำที่สูงอยู่ และได้ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำสะแกกรัง ลดฮวบจนไม่ทันตั้งตัว โดยลดระดับลงจากจุดสูงสุดในช่วงต้นเดือนกันยายน มากกว่า 1 เมตร จึงได้ส่งผลกระทบต่อแพขนาดใหญ่ที่ทางเทศบาลเมืองอุทัยธานี จัดทำไว้ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมกันตักบาตรทางน้ำ และทำทานให้อาหารปลา แพเกยตื้นและเอียงอย่างภาพที่เห็น เพราะเจ้าหน้าที่นำแพลงล่องน้ำลึกไม่ทัน ทำให้การตักบาตรทางน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก
นอกจากนี้เรือนแพพักอาศัย และกระชังปลาทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำสะแกกรังกว่า 200 หลังคาเรือน และกระชังปลาอีกนับร้อยกระชัง ที่ก่อนหน้านี้ระดับน้ำสูงขึ้นจนน่าเป็นหว่ง ชาวเรือนแพต้องชักลากเรือนแพและกระชังปลาเข้าริมฝั่งให้มากที่สุดเพื่อป้องกันความเสียหาย แต่เมื่อปริมาณน้ำในแม่น้ำสะแกกรังลดอย่างกระทันหันหลายเรือนแพพักอาศัยไม่ทันตั้งตัว จึงชักลากเรือนแพ และกระชังปลาลงล่องน้ำลึกไม่ทัน จึงทำให้เรือนแพอาศัยหลายสิบหลังเกยตื้น และหากไม่มีน้ำไหลมาเติมในเร็ววันให้เรือนแพรอยน้ำได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อชาวเรือนแพ เรือนแพพักอาศัย โดยเฉพาะลูกบวบไม้ผ่าทุ่นรอยน้ำของเรือนแพพักอาศัยจะได้รับบความเสียหาย และหาได้รับความเสียหายค่าซ่อมเปลี่ยนลูกบวบแต่ละครั้งจะต้องใช้เงินหลายหมื่นบาท และปริมาณน้ำที่ลดก็จะทำให้น้ำนิ่งและจะเกิดการเน่าเสียต่อไป และล่าสุดทางโครงการชลประทานอุทัยธานี ได้ทำการพร่องน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านประตูระบายน้ำคลองขุมทรัพย์ และประตูระบายน้ำตามรอยเสด็จประพาสต้น เพื่อผักดันน้ำให้แม่น้ำสะแกกระชังมีการไหลเวียนป้องกันไม่ให้เกิดน้ำเน่าเสีย ต่อไป
