อุทัยธานี คืบหน้า เหตุสลดรถบัสทัศนศึกษา อัพเดตยอดนักเรียน-ครู เสียชีวิตแล้ว 25 ราย ผู้ปกครองร่ำไห้จนเป็นลม ด้านผู้ว่าฯจัดตั้งศูนย์ให้การช่วยเหลือผู้ปกครองแล้ว
วันที่ 1 ต.ค.67 ที่ จังหวัดอุทัยธานี เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.15 น. เกิดเหตุสลดรถบัสทัศนศึกษานักเรียนเกิดไฟลุกไหม้ ขึ้นบนถนนพหลโยธิน ขาเข้า บริเวณหน้าเซียร์รังสิต จังหวัดปทุมธานี โดยพบว่าเป็นรถของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งพานักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษา รวม 3 คัน มาทัศนศึกษา ก่อนเกิดเพลิงลุกไหม้รุนแรงขึ้นบนรถบัสคันที่ 2 ทะเบียน 30-0423 เบื้องต้นทราบว่า จากรายงานภายในรถคันดังกล่าวมีผู้โดยสารอยู่ประมาณ 45 ราย เสียชีวิตประมาณ 25 รายรวมทั้งครูด้วย ( 3 ราย ) ราย ส่วนผู้บาดเจ็บได้ถูกนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิตและโรงพยาบาลใกล้เคียง
โดยผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม หมู่ที่ 5 ตำบลลานสัก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งมี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เดินทางลงพื้นที่มาประชุมหารืออย่างเร่งด่วนร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุทัยธานี เขต 2 และคณะครูที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย โดยเบื้องต้นได้มีการสั่งการให้ตั้งศูนย์อำนวยการแจ้งประสานข้อมูลข่าวสาร และสถานพยาบาลขึ้นที่โรงเรียน พร้อมศูนย์ให้การช่วยเหลือผู้ปกครองในการนำศพกลับภูมิลำเนา ซึ่งบรรยากาศภายในโรงเรียนตอนนี้มี พ่อ แม่ ผู้ปกครอง แห่เดินทางกันมารอรับฟังการอัพเดทข้อมูลข่าวสารว่าบุตรหลานของตนเองนั้นปลอดภัยดีหรือไม่ ซึ่งบรรยากาศที่โรงเรียนตอนนี้เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ผู้ปกครองซึ่งเป็นทั้งพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ต่างพากันร่ำให้ด้วยความเสียใจและความเป็นห่วงบุตรหลานของตนเอง ที่ทราบข่าวแน่นอนแล้วว่าเสียชีวิตแล้ว ต่างพากันร้องไห้จนบางรายถึงขั้นเป็นลม และพยายามโทรศัพท์ติดต่อสอบถามคุณครูที่อยู่ในที่เกิดเหตุตลอดเวลา แต่ยังไม่ได้ข้อมูลที่แน่ชัดว่าตอนนี้บุตรหลานของตนเองปลอดภัยดีหรือไม่
ซึ่งตอนแรกได้มีการจัดรถตู้ให้ผู้ปกครองเดินทางไปที่เกิดเหตุ แต่สุดท้ายได้มีการยกเลิกการเดินทาง เนื่องจากทางต้นทางระบุว่า ให้ผู้ปกครองนั้นรอรับฟังข้อมูลข่าวสารพร้อมกันที่โรงเรียน เพราะตอนนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแล้วบ้าง
โดยทางด้าน นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นว่า ตอนนี้กำลังเร่งรวบรวมรายชื่อทั้งเด็กนักเรียนและครูที่เดินทางไปทั้งหมดว่า มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตบ้าง ตอนนี้กำลังทยอยอัพเดทรายชื่อกันอยู่แต่ยังสรุปไม่ได้เพราะต้องเช็คให้ชัวร์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง โดยตอนนี้ได้ตั้งศูนย์ประสานงาน และศูนย์พยาบาลไว้ที่โรงเรียนก่อน โดยนักเรียนที่ปลอดภัยจะเดินทางกลับมาที่โรงเรียนภายในวันนี้ ส่วนนักเรียนที่บาดเจ็บต้องรอดูว่าสามารถส่งตัวกลับมารักษาที่จังหวัดต่อได้เลยหรือไม่ ส่วนคนที่เสียชีวิตนั้นเบื้องต้นจะมีการนำร่างไปพิสูจน์ที่โรงพยาบาลตำรวจก่อน ผวจ.กล่าว
ด้าน นางกำไร จำนงค์สังข์ อายุ 51 ปี (ผปค.เสื้อเขียว) ยายน้อง ป.1 เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า ตนเองนั้นเดินทางมาส่งหลานที่โรงเรียนด้วยตัวเองเมื่อตอนตี 5 เพื่อให้หลานไปเที่ยวทัศนศึกษากับเพื่อนๆ ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นกับหลาน ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าหลานเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง เพราะติดต่อไม่ได้เลย ด้าน นางนงนุช ขำกระแส อายุ 50 ปี (ผปค.เสื้อชมพู) อาน้อง ป.3 ซึ่งอยู่ในคันที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน ซึ่งวันนี้เดินทางมาพร้อมครอบครัวเพื่อรอฟังความคืบหน้าว่าบุตรหลานของตนเองเป็นอย่างไรบ้างด้วยเช่นกัน เพราะตอนนี้ยังติดต่อหลานไม่ได้ พร้อมกับพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาครูที่อยู่ในที่เกิดเหตุแต่ก็ยังไม่มีครูรายใดแจ้งได้เลยว่าตอนนี้หลานของตนเองปลอดภัยดีหรือไม่
พร้อมกันนี้ ยังพบว่ามี 2 หนูน้อยชั้น ป.3 และชั้น ป.6 จำนวน 2 คนที่ไม่ได้เดินทางไปทัศนศึกษากับเพื่อนๆในครั้งนี้จึงทำให้ทั้ง 2 นั้นรอดปลอดภัยดี โดย หนูน้อยชั้น ป.3 ให้เหตุผลที่ไม่ได้ไปในครั้งนี้ว่า ที่ไม่ได้ไปกับเพื่อนๆเพราะว่าแม่ไม่อนุญาตให้ไป ส่วนชั้น ป.6 นั้นบอกว่า ที่ไม่ได้ไปเพราะตัวเองชอบเมารถ ซึ่งทั้ง 2 คนบอกว่า หลังทราบข่าวก็รู้สึกเศร้าใจและเป็นห่วงเพื่อนมากๆ อยากบอกเพื่อนๆว่ารักเพื่อนมาก และขอให้เพื่อนปลอดภัย
