คนร้ายบุกลักเงินวัดหลวงพ่อเคลือบร้อนลุ่มยอมมอบตัว
คนร้ายคาดว่าเป็นหญิงสูงอายุบุกลักเงินวัดหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ใน ( เก่า ) ตำบลหนองยายดา อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ที่แท้เป็นกระเทยแก่ วัย 71 ปี ทนความร้อนลุ่มไม่ไหว อีกทั้งทนแรงกดดันของตำรวจไม่ไหว้ ยอมเดินทางมามอบตัวยอมรับสารภาพสิ้นต้องการนำเงินไปรักษาตัว เงินที่ได้ไปกว่า 4 หมื่น 6 พัน บาท นำมาคืน แต่ต้องถูกดำเนินคดี
ที่จังหวัดอุทัยธานี จากกรณีที่มีการสันนิษฐานว่าเป็นหญิงสูงอายุ ขับรถกระบะเข้ามาก่อเหตุบุกเข้าไปลักเงินในกุฏิเจ้าอาวาสขณะไม่มีคนอยู่ เมื่อเวลา 08.00 น.กว่าๆ ของวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา และเงินที่ได้ไปเป็นเงินที่ทางเจ้าอาวาสวัดหนองกระดี่ใน ( เก่า ) ได้เตรียมไว้ให้ญาติโยม แรกทำบุญสมทบทุนสร้างหลวงพ่อเคลือบองค์ใหญ่ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และต้องการใช้เงินอีกจำนวนอีกนับ 10 ล้านบาท และได้เงินไปประมาณกว่า 1 หมื่นบาท ส่วนซองเงินทำบุญกฐินอีกกว่า 100 ซอง ไม่ได้หยิบไปนั้น
ล่าสุดวันนี้ ( 28 ต.ค. ) เวลา 13.00 น. บุญญารัตน์ แก้วก้อนทอง อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นคนร้าย ที่อยู่ในภาพวงจรปิด และยอมรับว่าเป็นตัวเอง และยอมรับว่าตัวเองมีนิสัยเป็นกระเทย ที่เป็นคนก่อเหตุบุกเข้ามาลักเงินจริงตามวันเวลาดังกล่าว ได้เดินทางเข้ามามอบตัว กับ ร.ต.อ.แมน โพธิ์อยู่ พนักงานสอบสวน สภ.ทัพทัน โดยได้บอกว่าการก่อเหตุดังกล่าวทำเพียงคนเดียวตามลำพัง ซึ่งตัวเองไม่เคยเดินทางมาที่วัดที่ก่อเหตุมาก่อน และที่มาก่อเหตุตั้งใจมาก่อเหตุที่วัดในเมืองเท่านั้นแต่ไม่สำเร็จ และได้ขับรถมาที่วัดที่ก่อเหตุเห็นไม่มีพระอยู่จึงเข้าไปก่อเหตุ และเงินที่ได้ไปที่ทางเจ้าอาวาสเข้าใจว่าไม่ได้นำซองกฐินไปด้วยนั้น ซึ่งทางคนร้ายบอกว่ามีซองกฐินอีกจำนวนมากที่นำไปรวมเงินที่ลักไปมีจำนวนถึง 4 หมื่น 6 พันบาท โดยบอกว่าไม่เคยก่อเหตุอย่างนี้มาก่อนทำไปเพราะต้องการนำเงินไปรักษาตัวที่ป่วยอยู่ ซึ่งตอนนี้ไม่มีงานทำและไม่มี เคยปิดร้านขายข้าวมันไก่และพักอาศัยอยู่ย่านพระราม 2 กรุงเทพมหานคร ที่หิดกิจการไปกว่า 5 ปี แล้ว
นายบุญญารัตน์ฯคนร้าย ยังบอกอีกว่าตั้งแต่ลักเงินไป ก็เกิดความไม่สบายใจ และเกิดความร้อนลุ่มอยู่ในใจตลอดเวลาต่อการกระทำผิดต่อองค์หลวงพ่อเคลือบ ( ไม่มีเสียงพูดในช่วงนี้ ) และมีคนที่รู้จักแจ้งมาว่าเห็นในข่าว และในสื่อโซเชียล อีกทั้งทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว จึงได้เดินทางมามอบตัว พร้อมกับนำเงินทั้งหมดไปคืนให้กับเจ้าอาวาส และได้ขอขมาต่อหลวงพ่อเคลือบแล้ว ส่วนด้านคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินคดีทางอาญา ต่อไป
