โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ต้นแบบการผ่าตัดลดน้ำหนักรักษาผู้ป่วยโรคอ้วนทุพพลภาพ หลังดำเนินงานมา 7 ปี สามารถผ่าตัดได้ 50-60 รายต่อเดือน ถือเป็นอันดับต้นของประเทศ
วันนี้ (27 พ.ค.65) นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พร้อมด้วยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากในประเทศและต่างประเทศ ร่วมกันแถลงผลสำเร็จการจัดตั้งศูนย์ผ่าตัดลดน้ำหนักของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พร้อมทั้งเปิดการประชุม “Establish Bariatric center in provincial hospital. How can I do it ? : เราจะจัดตั้งศูนย์ผ่าตัดลดน้ำหนักในโรงพยาบาลจังหวัดได้อย่างไร ” โดยแพทย์และทีมผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลระดับจังหวัดจากภูมิลำเนาต่าง ๆ มาแนะนำแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และมีอาจารย์ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดลดน้ำหนักของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจากทั่วประเทศ มาให้คำแนะนำ พร้อมทั้งเป็นต้นแบบที่ดีให้กับทีมแพทย์อื่น ๆ โรงพยาบาลอื่นที่มีความประสงค์ในการจัดตั้งศูนย์ผ่าตัดลดน้ำหนักรักษาผู้ป่วยโรคอ้วนทุพพลภาพ ทั้งนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ อาทิ เกาหลีใต้ ไต้หวัน มาให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการดูแลผู้ป่วยอ้วนทุพพลภาพในแต่ละประเทศ
นายแพทย์ฐากูร พูนธนานิวัฒน์กุล ศัลยแพทย์ชำนาญการ รพ.วชิระภูเก็ต กล่าวว่า ผลการผ่าตัดทำให้ลดน้ำหนักลดลงเฉลี่ย 33% จากตั้งต้นที่ระยะเวลา 1 ปีและทำให้ยังคงน้ำหนักลดลงที่ 22% ที่ระยะ 6 ปีหลังการผ่าตัดอีกทั้งสามารถทำให้เบาหวานหายขาดที่ระยะเวลา 1 ปีหลังการผ่าตัดถึงได้ร้อยละ 72 ของคนไข้ทั้งหมดอีกทั้งมีผลแทรกซ้อนอยู่ในระดับต่ำซึ่งผลลัพธ์ทั้งหมดอยู่ในระดับมาตรฐานระดับนานาชาติมีชื่อเสียงจนเป็นที่สถานที่ดูงานและเรียนรู้ในการผ่าตัดของทางแพทย์ชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจะเห็นว่าการผ่าตัดลดน้ำหนักเป็นการผ่าตัดที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยอ้วนทุพพลภาพ เพราะนอกจากจะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืนแล้ว ยังทำให้โรคร่วมที่มาพร้อมกับความอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูงหายขาดได้ ส่งผลให้คนอ้วนทุพพลภาพมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้การดำเนินการผ่าตัดลดน้ำหนัก เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคอ้วนทุพพลภาพมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ซึ่งตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ได้รับความไว้วางใจจากผู้คนทั้งประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยจากทั่วประเทศทั้งในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดข้างเคียง เข้ารับการผ่าตัด ทั้งหมด 1,559 รายโดยปัจจุบันสามารถผ่าตัดได้เฉลี่ยเดือนละ 50-60 รายซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากที่สุดลำดับต้น ๆ ของประเทศอีกแห่งหนึ่ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: