ความคืบหน้าคดีแท็กซี่มาเฟียไล่นักท่องเที่ยวลงจากรถ ล่าสุดขนส่งได้เชิญตัวคนขับรถตู้ที่โดนแท็กซี่ท่าเรือรัษฎาไล่นักท่องเที่ยวลงจากรถมาสอบปากคำแล้ว
จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปวิดีโอ กลุ่มชายเข้ามาขวางรถตู้โดยสารที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั่งในรถ จากนั้นก็บังคับนักท่องเที่ยวลงจากรถจนหมดและให้ไปหารถคันใหม่ สาเหตุจากไม่พอใจที่รถตู้ดังกล่าวมาวิ่งรับผู้โดยสาร ซึ่งไม่ใช่รถตู้สังกัดในพื้นที่ ภายหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวภูเก็ต เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นพฤติกรรมความกร่างของกลุ่มชายฉกรรจ์ ราวกับเป็น “มาเฟีย” หรือผู้มีอิทธิพล ซึ่งไม่สนใจกฎหมายบ้านเมือง ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 4 ก.ย.65 ที่ สภ.เมืองภูเก็ต นายชลลี่ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี คนขับรถตู้บริการที่เข้าไปรับนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติ 4 คนภายในท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากนักท่องเที่ยวได้ใช้เรียกใช้บริการผ่านแอปพิเคชั่น แต่สุดท้ายมีปากเสียงกับคนดูแลคิวรถตู้บริการหน้าท่าเทียบเรือรัษฎาได้เข้าให้ปากคำกับ ร.ต.อ.วิชิต นกแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต โดยมีนายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ขนส่งรับฟังการสอบสวนปากคำเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันคู่กรณี นายเอกชัย ( ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ที่ถูกระบุว่าเป็นชายเสื้อดำมาขวางรถตู้ไม่ให้พานักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติทั้ง 4 คนไปส่งยังที่พักอยู่ระหว่างการเข้าให้ปากคำเช่นกัน
ขณะเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำโดย พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งคมคาย ผกก.2 บก.ทท.3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.สาธิต หนูฤทธิ์ รองผกก.จราจร สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ท่าเทียบเรือรัษฎา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีตัวแทนของท่าเทียบเรือและตัวแทนของบริษัทรถให้บริการรับจ้างสาธารณะภายในท่าเทียบเรือร่วมให้ข้อมูล จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้มีการประชุมหารือร่วมกันในการดำเนินการเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
โดยนายอัดชา กล่าวว่า สำหรับวันนี้ได้รับการประสานงานจาก ตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ให้มาดูในเรื่องของคู่กรณีที่เป็นไปตามในข่าว ตามในคลิปที่มีการกล่าวหาว่า ผู้ใช้บริการรถยนต์ป้ายเขียว ที่อยู่ในท่าเรือท่าเรือรัษฎา เป็นมาเฟีย รับ-ส่งผู้โดยสารในรถแท็กซี่ วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาตรวจสอบข้อมูล แล้วก็อาจจะต้องมีการสอบสวนหรืออาจดำเนินคดี ตามกฎหมายที่ได้รับความเสียหายเกิดขึ้น ทางขนส่งก็มาดูข้อมูลว่าในการกระทำดังกล่าวของคู่กรณีทั้งสองเข้าข่ายในความผิด ในส่วนของกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ถ้าเป็นความผิดเราก็ได้เรียกไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามนายอัดชา กล่าวว่า ในส่วนของแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการรถรับจ้างสาธารณะนั้น ขณะนี้กรมขนส่งทางบก ได้รับรองแอพพลิเคชั่นในส่วนของภูเก็ต เบื้องต้น 3 บริษัท ประกอบด้วย Hello Phuket, BonKU และ Asia CABB ส่วนของบริษัทอื่นๆ อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนกรณีของแอพพลิเคชั่นที่ยังไม่มีการรับรองนั้นจะประสานไปยังกระทรวงไอซีที เพื่อดำเนินการปิดแอปพิเคชั่นต่อไป รวมทั้งเข้มงวดตรวจสอบและดำเนินคดีกับการใช้รถผิดประเภทด้วย หลังจากนี้จะมีการเรียกประชุมผู้ให้บริการรถรับจ้างสาธารณะของจังหวัดภูเก็ตที่มีจำนวนกว่า 40 คิวทั่วทั้งจังหวัดภูเก็ต เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องการให้บริการ โดยเฉพาะปัจจุบันซึ่งมีการใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจกันตรงกัน และจะได้ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันจนเกิดผลกระทบกับภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวอีก โดยปัจจุบันมีรถรับจ้างสาธารณะจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ประกอบด้วย รถป้ายเขียวจำนวนกว่า 3,800 คัน ส่วนรถแท็กซี่ประมาณ 300 คัน ส่วนรถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง รวมรถทุกประเภทประมาณ 10,000 คัน ซึ่งเพียงพอต่อการให้บริการกับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ก็จะทำในเรื่องประชาสัมพันธ์ สร้างความรับรู้ความเข้าใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว โดยอาจจะผ่านไปทางโซเชียลต่างๆจะได้ทำให้นักท่องเที่ยวได้ทราบข้อมูลตามกฎหมาย และเข้าใจในการเลือกใช้ที่ถูกต้องตามกฎหมายจะได้ไม่มีผลกระทบ รวมทั้งเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ถูกต้อง เราก็ได้ร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะดำเนินการตามกฎหมายและบังคับใช้ตามกฎหมาย
“ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางมาในภูเก็ต ทางกรมการขนส่งจังหวัดภูเก็ต อยากให้ท่านเลือกใช้รถยนต์โดยสารที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากว่านักท่องเที่ยวก็จะได้รับประโยชน์ในเรื่องของการคุ้มครองต่างๆ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และอยากจะฝากสื่อมวลชนต่างๆช่วยประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวที่มาจังหวัดภูเก็ต ได้เลือกใช้รถที่ถูกต้อง อันนี้ก็จะทำให้ผู้ที่ได้จดทะเบียนรถถูกต้องตามกฎหมาย ได้มีการประกอบอาชีพที่ถูกต้องและได้บริการนักท่องเที่ยวต่อไป และอยากจะให้ผู้ประกอบการไปดูแลเรื่องขับรถ ทำให้มีจิตสำนึกในเรื่องของการบริการที่ดี และซึ่งในส่วนนี้เราก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการไปแล้ว” นายอัดชา กล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งคมคาย ผกก.2 บก.ทท.3 กล่าวภายหลังลงพื้นที่ท่าเทียบเรือรัษฎา และประชุมหารือร่วมกับขนส่งจังหวัดภูเก็ตและตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ว่า จากการลงพื้นที่ยังไม่พบความผิดปกติของการให้บริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากเกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อไปยังจุดต่างๆ ของภูเก็ต โดยทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ และข้อกำหนดของทางขนส่งฯ ส่วนของรถรับจ้างที่จะเข้าไปรับ-ส่งนักท่องเที่ยวในท่าเรือยังสามารถรับส่งได้ตามปกติ ในด้านคดีความของคู่กรณีที่ปรากฎในคลิป ทราบว่าแต่ละฝ่ายได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ซึ่งว่าไปตามพยานหลักฐานและกระบวนการของกฎหมาย ส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้ง 4 คน ขณะนี้ตำรวจท่องเที่ยวอยู่ระหว่างติดตามตัว เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทราบว่า พักอยู่ในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ กล่าวถึงการทำความเข้าใจกับผู้ให้บริการรถรับจ้างในภาพรวม ว่า ทราบว่าขนส่งจังหวัดภูเก็ต จะมีการเรียกประชุมคิวรถรับจ้างที่มีอยู่ประมาณ 40 คิวทั่วจังหวัดภูเก็ต มาพูดคุยทำความใจ ร่วมกับทางตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจภูธรภูเก็ตด้วย แต่ที่ผ่านมาเราดำเนินการมาโดยตลอดอยู่แล้ว และทางขนส่งได้มีการวางระบบไว้แล้ว แต่จะต้องมาสื่อสารทำความเข้าใจให้ตรงกัน เพื่อไม่ให้เกิดภาพลักษณ์หรือผลกระทบที่สร้างความเสียหายกับภาพลักษณ์ของภูเก็ตและการท่องเที่ยวขึ้นมาอีก นอกจากนี้อยากฝากไปถึงผู้ประกอบการที่ให้บริการรถรับจ้างรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งเข้าใจว่าทุกคนได้รับผลกระทบมาเป็นเวลา 2 ปี และขณะนี้การท่องเที่ยวต้องกลับมาแล้ว ก็อยากฝากเรื่องของการสื่อสารหรือคำพูด ตลอดจนการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง รวมถึงการใช้สื่อโซเชียลในการเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: