ทนายความพาผู้ปกครองและหลานชายเข้าแจ้งความและร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต หลังถูกผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ทำร้ายหลานชายวัย 9 ขวบ โดยการโขกศีรษะเด็กกับผนังปูนและใช้มือง้างและฉีกปากจนได้รับบาดเจ็บ ขอร้องให้ไล่ออกก่อนเกิดการสูญเสีย
วันนี้ 9 ก.ย. 65 นางเฉลิมขวัญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นยายและผู้ปกครองของเด็กชายนินจา (นามสมมุติ) อายุ 9ขวบ พร้อมทนายอนันตรักษ์ เพ็รชหิน เข้าพบนายจรัญ ขวัญแก้ว นิติกรชำนาญพิเศษ รก.ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต เพื่อขอความเป็นธรรม ซึ่งนางเฉลิมขวัญเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่ปลอดภัย เรื่องที่นายคมกฤษ (ขอสงวนนามสกุล) ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ได้ทำร้ายน้องนินจา โดยการใช้มือง้างและฉีกปากและโขกกับฝาผนังห้องของผอ.ทำให้ได้รับบาดเจ็บ หลานมีอาการปวดศีรษะ อีกทั้งวันนี้ 9 ก.ย.ได้ไปสภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผอ.คนดังกล่าวให้ถึงที่สุดตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวสอบถามนางเฉลิมขวัญผู้ปกครองของเด็กชายนินจา กล่าวว่าทางญาติ รู้สึกเป็นห่วงด้านจิตใจถือว่าบาดแผลภายนอกไม่เท่าไหร่แต่จิตใจสำคัญ ซึ่งเราคิดเสมอว่าโรงเรียนคือ สถานที่ที่ปลอดภัย แต่สุดท้ายกลับไม่ปลอดภัย และจากนี้ไปลูกเราจะไปโรงเรียนในแต่ละวันจะปลอดภัยหรือไม่ แล้วถ้าวันหนึ่งเขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เกิดทำร้ายถึงขั้นสูญเสียล่ะ เลยให้ออกไปดีกว่า
นางเฉลิมขวัญกล่าวต่ออีกว่า ปกติน้องนินจา เป็นคนร่าเริง แต่มีพัฒนาการที่ช้ากว่าคนอื่น การเรียนไม่ได้บกพร่องเลย ซึ่งหตุการณ์แบบนี้ที่เกิดขึ้นในโรงเรียน มันถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่มากเกินไป ในส่วนของน้องนินจาก็เรียนอยู่โรงเรียนนี้มาประมาณ 5 ปี ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ตอนนี้เรียนอยู่ ป.2 ซึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ก็มีน้องสาวของน้องนินจา และเพื่อนอีก 2 คนที่เรียนอยู่ด้วยกันที่ได้เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุทำร้ายร่างกายน้องนินจา
ครูยุ้ย อดีตครูสอนเด็ก ที่เคยทำงานอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้เล่าให้ฟังว่า ก็เข้าใจว่าน้องนินจาเป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้า เป็นเด็กพิเศษ เขาก็เล่นในรูปแบบของเขา แต่ว่าก็ไม่ได้ไปเล่น หรือมีการกระทบกระทั่งทำร้ายเด็กคนอื่น และในช่วงหลังน้องนินจา ก็รู้สึกว่าห้องผอ.ไม่ปลอดภัยแล้ว น้องนินจาก็ขึ้นมาอยู่ในห้องพักครู ซึ่งดูจากอาการน้องนินจาในตอนนั้นมีอาการหวาดกลัวไม่กล้าที่จะพบเจอคนที่มาทำร้ายและรู้สึกว่าไม่อยากไปโรงเรียน
ครูยุ้ย ยังกล่าวต่อว่า ที่ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน เพราะว่ารับไม่ได้กับพฤติกรรมของผอ.คนนี้ สำหรับเคสนี้ ก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยตรวจสอบดูแล และขอความเป็นธรรม ให้กับน้องนินจา ผู้ที่ถูกกระทำด้วย
ด้านทนายรักษ์ อนันตรักษ์ เพ็ชรหิน ผู้รับเรื่องร้องเรียน เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการร้องเรียน จึงได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ก็อย่างที่เป็นไปตามข่าวว่า น้องนินจาที่มีลักษณะเป็นเด็กพิเศษมีพัฒนาการช้า ได้ถูกทำร้ายโดยผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ทั้งฉีกปาก และเอาหัวโขกกับผนังห้องของผอ. ซึ่งตรงนี้คิดว่าเด็กเองก็ได้รับความสะเทือน ทั้งในเรื่องของบาดแผลทางร่างกาย และโดยเฉพาะทางจิตใจ และยังทราบข่าวว่าทางเด็กก็กลัวไปทั้งห้องเรียน ก็เลยคิดว่าเมื่อได้รับการร้องเรียนขึ้นมาเราก็ใช้วิชาชีพของเราในฐานะทนายความ นำกฎหมายเข้ามาต่อสู้ เข้ามาปกป้องผู้ที่ได้รับการกระทำเช่นนี้ ก็ยินดีที่จะช่วยเหลือในการดำเนินการ ทั้งในเรื่องของการพาเข้าไปแจ้งความ และในวันนี้ ก็พามายื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรม ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในทีมที่มาร่วมช่วยเหลือ หนึ่งในนั้นก็เป็นอดีตประธานผู้ปกครองโรงเรียนแห่งนี้ด้วย ก็ได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ โรงเรียนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่พอมีผอ.คนใหม่เข้ามา ก็ได้เกิดเหตุดังกล่าว ก็เลยรู้สึกตกใจมาก
ทนายรักษ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งในตอนนี้ ก็ไปดำเนินการแจ้งความ ก็ถือว่าเป็นคดีความแล้ว และเราก็จะไม่นิ่งนอนใจแน่นอน ในฐานะทนายความ ก็จะใช้ความรู้ในเรื่องของข้อกฎหมายให้เป็นประโยชน์สูงสุด กับผู้ที่ถูกกระทำในครั้งนี้ ตอนนี้ ก็มีพยานคือน้อง (มัสยา) ซึ่งเป็นน้องสาวของน้องนินจา แล้วก็เพื่อนอีก 2 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งตรงนี้โดยเด็กนั้น เค้าก็จะให้ข้อมูล แล้วก็พูดตามเหตุการณ์ที่เขาได้เห็น ก็คงจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: