ความคืบหน้าเจ้าหน้าที่เชิญคู่กรณีทั้งสอง มาสอบถาม เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิป และตรวจสารเสพติด พบว่าแท็กซี่ดังกล่าวมีฉี่เป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว ขนส่งภูเก็ตลงโทษหนักเพิกถอนใบอนุญาตขับรถสาธารณะ
จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 65 เพจโหดจังจังหวัดภูเก็ต ได้โพสต์คลิปความยาว 1.16 นาที พร้อมระบุข้อความว่า รถแท็กซี่สนามบินภูเก็ตดังอีกแล้ว มีเรื่องทะเลาะกับชาวบ้าน ชาวบ้านร้องเรียน ขับรถเร็ว บีบแตรไล่คนอื่น พร้อมด่าทอเพื่อนร่วมทางรายอื่น ๆ ซึ่งจากภาพที่ปรากฏพบว่าเป็นผู้ให้บริเวณรถแท็กซี่ท้องถิ่น (ป้ายเขียว) จังหวัดภูเก็ต
ล่าสุดวันที่ 11 ต.ค. 65 พ.ต.อ.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี ผกก.สภ.กะทู้ กล่าวว่า เมื่อวานนี้หลังจากเกิดเหตุได้เชิญนายจิรศักดิ์ คนขับแท็กซี่ป้ายเขียวและว่าที่ร้อยโทภาสกร ผู้ถ่ายคลิปขณะเกิดเหตุ เข้ามาสอบถาม หลังจากรับทราบเรื่องได้ให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วก็สืบสวนหาผู้ขับทั้งสองฝ่ายคือ เจ้าของคลิปและก็ผู้ขับแท็กซี่ จนสามารถติดตามตัวได้ และให้การตรงกันว่ามีปากเสียงกันตามคลิปจริง ต้นเหตุมาจากเจ้าของคลิปมองว่าคนขับรถป้ายเขียวขับรถไม่เคารพกฎจราจร เลยมีการโต้เถียงกัน แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย และความผิดอื่น ๆ ที่ชัดเจน
จากนั้นได้ตรวจปัสสาวะทั้งคู่ผลการตรวจปรากฏว่าในคนถ่ายคลิปไม่พบสารเสพติด ส่วนผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะพบสารเสพติดในปัสสาวะเป็นบวก จึงนำตัวไปยืนยันผลที่โรงพยาบาลป่าตอง ผลตรวจจากศูนย์ปฏิบัติการพบว่าในร่างกายมียาเสพติด ให้โทษประเภทที่ 1 คือเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ ได้สอบถามผู้ขับแล้วไม่สมัครใจในการบำบัด จึงแจ้งข้อหาว่าขับขี่รถโดยเสพสารเสพติดและยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 คือ และนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี โดยตอนนี้ตัวผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวที่ สภ.วิชิต เนื่องจากห้องคุมขังของ สภ.กะทู้ ยังไม่เสร็จ
ด้าน นายกรณ์พิทักษ์ อาสน์สุวรรณ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง กล่าวว่า ได้ตรวจสอบคลิปต่าง ๆ และได้ประสานทาง สภ.กระทู้ พบความผิดคือการใช้วาจาไม่สุภาพคือจะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท แต่จากการประสานกับ สภ.กะทู้ แล้วผู้ขับรถมีใบอนุญาตขับรถประเภทที่2 ซึ่งขับรถสาธารณะ มีสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งเป็นองค์ประกอบความผิดของการพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตได้ ทางขนส่งได้รวบรวมข้อมูลกับทาง สภ.กะทู้ เพื่อดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาต เพราะเคสนี้ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด คือการเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนรถก็ใช้ต่อไปได้ เพราะเป็นความผิดเฉพาะคนก็ให้คนอื่นในบริษัทขับรถได้ต่อไป ทางขนส่งก็จะประสานงานกับทาง ผู้ประกอบการให้ตรวจสอบสารยาเสพติดในผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะต่อไปด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: