ภูเก็ตค้นหานทท.สาวชาวรัสเซีย วันที่ 4 แต่ยังไร้วี่แวว ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดมค้นหาทั้งทางบก ทางทะเลและทางอากาศ และชาวบ้านในพื้นที่พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเบิกทางค้นหา
จากกรณีเมื่อเวลา 22.00 ของ(วันที่ 20 ต.ค. 65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู จ.ภูเก็ตได้รับแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวรัสเซียทราบชื่อคือน.ส.อิเลนา ราซเนนโก (Elena Radcnenko) อายุ 53 ปี มีอาการเหม่อลอย ได้หายตัวออกจากที่พักโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นหาดในทอน ต.สาคู อ.ถลาง ซึ่งมีผู้พบเห็นครั้งสุดท้าย บริเวณหน้าหาดในทอนและได้วางผ้าเช็ดตัว ขวดน้ำดื่มและรองเท้ารัดส้นไว้ เมื่อคืนวันที่ (20 ต.ค.65)บริเวณหาดในทอนรูปร่างลักษณะผู้สูญหาย สูงประมาณ 164 ซม.ผมสีดำ สวมชุดว่ายน้ำแขนยาวและมีผ้ารูปช้างพันท่อนล่าง เจ้าหน้าที่กู้ชีพค้นหาพบแต่ผ้าเช็ดตัว ขวดน้ำดื่มและรองเท้ารัดส้นไว้สีขาวถูกถอดทิ้งไว้ใต้ต้นเตยทะเลริมหาดในทอน
ล่าสุดวันนี้ 24 ต.ค.65 นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางมาศูนย์ปฏิบัติการค้นหานทท.สาวชาวรัสเซียพร้อมด้วยนายบัญชา นายอำเภอ นายตฤณ ปัญญาไวย์ นายก อบต.สาคู พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผู้กำกับตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอถลาง พร้อมด้วย ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต กองทัพเรือภาคที่ 3 ฝ่ายปกครอง กอ.รมน. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต และหน่วยกู้ชีพอบต.สาคู ได้ร่วมกันปล่อยแถวปฏิบัติการค้นหาน.ส.อิเลนา ราซเนนโก (Elena Radcnenko) อายุ 53 ปี จำนวน 150 นาย ออกค้นหาบริเวณริมหาด โขดหินและบนภูเขาใกล้เคียง และเพิ่มพื้นที่การค้นหา ส่วนการปฏิบัติการค้นหาทางทะเลไม่สามารถที่จะใช้เรือยางออกค้นหาได้ระดับน้ำสูงและคลื่นลมแรง จึงนำเจ็ทสกีออกค้นหาแทน
ด้านพล.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.อ.กัณต์ชวิศ โพธิ์ประสิทธิ์ ผกก.สภ.สาคู ได้เรียก เจ้าหน้าที่ตำรวจสภสาคูที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยชุดสืบสวนเข้าร่วมประชุมที่สภ.สาคู เพื่อรวบรวมหาหลักฐานเพิ่มเติม เกี่ยวกับการหายตัวไปของน.ส.อิเลนา นทท.สาวชาวรัสเซีย
ในด้านความเชื่อของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ได้มีการเชิญร่างทรง มาประทับทรง ทางร่างทรงได้บอกว่า ร่างของน.ส.อิเลน่าได้จมน้ำและลอยไปติดในซอกหินบริเวณหาดนุ้ย ซึ่งสถานที่ตรงนี้เป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลสาคู คือศาลพ่อตาละโต๊ะ พ่อตาขุนเล ซึ่งในความเชื่อของชาวบ้านเชื่อว่าพ่อตาละโต๊ะ ไปดูแลบนเทือกเขา ส่วนพ่อตาขุนเลช่วยปกป้องทางทะเล
