ภูเก็ต สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวฯ ภาคใต้ เขต 2 ลงดาบบริษัทขายแพ็กเกจทัวร์ให้นักท่องเที่ยวจีน พักใช้ใบอนุญาต 6 เดือน ตั้งแต่ 7 ก.พ.นี้ ฐานสร้างความเสื่อมเสีย
จากกรณีเพจกระบี่ทีวีออนไลน์ได้โพสต์ข้อความ “ครอบครัวนักท่องเที่ยวจีนแฉซื้อทัวร์ที่หาดกะตะจะไปสิมิลัน โดนเบี้ยว เมื่อทวงถามกลับใช้มีดฟัน หลาบแล้วเมืองไทย” ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (6 ม.ค.66) ที่ห้องประชมชั้น 4 มุขหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายอำนวย พิณสุวรรณ นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ นายดนัย สุนันทารอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายรัชดาภรณ์ โออิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายนภดล อาวุธธรรมปรีชา นายทะเบียนสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศภาคใต้เขต 2 ตำรวจ ตม.ภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตเข้าร่วมประชุมหารือกรณีนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายร่างกายโดยใช้มีดฟันที่แขนจนได้รับบาดเจ็บ
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า พอทราบข่าวในวันนี้ ทุกฝ่ายมาประชุมพร้อมกันและช่วยกันแก้ไขเนื่องจากกระทบภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อบุคคลผู้กระทำผิด ซึ่งทางจังหวัดยึดหลักกฏหมายและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดูข้อกฏหมาย นำไปสู่ข้อสรุปการบังคับใช้กฏหมาย ทั้งนี้ทางจังหวัดไม่ได้ละเลยกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมา โดยเฉพาะช่วงนี้จังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ปัญหาอาจเกิดขึ้นตลอด ฉะน้นแต่ละเรื่องต้องดำเนินการทันทีตามกฏหมาย อย่งไรก็ตามคงเป็นตัวอย่างกับรายอื่น ๆ ต่อไปด้วย ซึ่งจังหวัดเองก็ได้เน้นย้ำมาตลอดในการเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการรับแขกบ้าน แขกเมืองเข้ามา ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของเราให้ดีขึ้น ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น จังหวัดจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการบูรณาการการทำงานร่วมกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรจะมีการดำเนินการแก้ไขทันที
ข่าวน่าสนใจ:
นายนภดล อาวุธธรรมปรีชา นายทะเบียนสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศภาคใต้เขต 2 กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศภาคใต้เขต2 จะรับผิดชอบในเรื่องของใบอนุญาตประกอบูรกิจท่องเที่ยวซึ่งผู้ประกอบการรายนี้มีใบอนุญาตถูกต้องเป็นประเภทเฉพาะพื้นที่ขอในแบบบุคคลธรรมดา ซึ่งตามพรบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศเมื่อมาดูความผิดของเค้าแล้ว ก็จะมีความผิดในประเด็นความผิดตามระเบียบคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวที่วางไว้ โดยเมื่อมีความผิดตามระเบียบนำเที่ยวในข้อ 9 (ค) ก็คือกระทำการอื่นใดที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงต่อศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีของประเทศไทย ซึ่งเมื่อมีการกระทำความผิดตามกฏระเบียบที่วางไว้ก็จะเป็นเหตุให้พักใช้ใบอนุญาตซึ่งนายทะเบียนมีอำนาจในการสั่งพักใช้ใบอนุญาตไม่เกิน 6 เดือน นอกจากนี้ยังมีมาตรา 24 ซึ่งจะกำหนดไว้ว่าผู้ประกอบการนำเที่ยวต้องไม่กระทำการอันใดที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยวซึ่งถ้าผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 24 นี้จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกินห้าแสนบาทซึ่งอันนี้จะนำมาใช้ในการลงโทษบริษัททัวร์
ด้าน พล.ต.ต. เสริมพันธ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยจะมีการส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ. 66) ซึ่งในส่วนของการพกพาอาวุธ มีโทษเปรียบเทียบปรับเป็นลหุโทษ ส่วนการทำร้ายร่างกายมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
ทั้งนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการในจังหวัดภูเก็ตจะมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: