ภูเก็ต ผลตรวจออกแล้ว คนขับเรือชนเสาไฟสัญญาณกลางทะเล พบมีสารเสพติด ประเภทเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย ตร.เร่งรวบรวมหลักฐาน ก่อนส่งสำนวนคดีให้อัยการส่งฟ้องศาลต่อไป
จากกรณี เหตุเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยวชนประภาคารกลางทะเลอ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ชื่อเรือธนาธิป มารีน 555ของบริษัทเอไทม์ กำลังเดินทางกลับจากทริป เกาะพีพี อ่าวมาหยา เกาะแบมบู เกาะไข่ และเกาะไม้ท่อน จนกระทั่งมาถึงบริเวณประภาคารหน้าอ่าวฉลองห่างจากท่าเรืออ่าวฉลองประมาณ 500 เมตร เรือเกิดเสียหลักชนเข้ากับประภาคาร เมื่อวันที่ 17 พ.ค.66 ส่งผลให้มีผู้ประสบภัย จำนวน 37 ราย (เป็นชาวต่างชาติ 33 ราย และเป็นคนไทย 4 ราย) โดยเข้ารับการรักษาอยู่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต , โรงพยาบาลฉลอง , โรงพยาบาลดีบุก , โรงพยาบาลสิริโรจน์ , โรงพยาบาลกรุงเทพ , โรงพยาบาลมิชชั่น และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต
ล่าสุดวันนี้ (22 พ.ค.66) พ.ต.ท.คะแนน สมรักษ์ สว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง เปิดเผยความคืบหน้า ผลการตรวจแอลกอฮอล์ และสารเสพติดในร่างกายของคนขับเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยวชนเสาสัญญาณไฟกลางทะเล จนทำให้นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวันที่ 17 พ.ค.66ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้พิจารณา 2 ประเด็น คือ สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุเกิดจากเครื่องยนต์กลไกหรือความผิดพลาดบกพร่องของ นายสาธิต มาศชาย ผู้ควบคุมเรือ, มีใบอนุญาตจากกรมเจ้าท่าหรือไม่
พ.ต.ท.คะแนน กล่าวอีกว่า การสรุปของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องพบว่า ปัญหาเกิดจากตัวผู้ควบคุมเรือ และผลของการตรวจแอลกอฮอล์ในตัวของนายสาธิตนั้น ไม่พบแอลกอฮอล์ในร่างกาย แต่พบสารออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท เป็นสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน ซึ่งในขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐาน ก่อนส่งสำนวนคดีให้อัยการส่งฟ้องศาลต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
- สลด! พบซากพะยูนถูกตัดหัว ลอยอืดใกล้ท่าเทียบเรือบางโรง จนท.เร่งหาสาเหตุ
- ตร.กมลารวบ ผจก.เกสเฮ้าส์สาวติดพนันออนไลน์ ฉกเครื่องเพชร-นาฬิกาหรูนายจ้างสาวลูกครึ่ง ขาย-แพ็คส่งให้แฟนหนุ่มเก็บ
- ตม.ภูเก็ต รวบหญิงต่างชาติผิวสี เสนอขายบริการสร้างภาพลักษณ์เสื่อมเสียท่องเที่ยวภูเก็ต
- รวบ "เอ็ม ท่าเรือ-ในเกาะ" ค้ายาบ้าและไอซ์
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.66ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้เปิดเผยความคืบหน้า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยวชนตอม่อเสาสัญญาณไฟกลางทะเล เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาผู้ขับขี่เรือตามมาตรา 300 และ 390 ในข้อหากระทำการด้วยความประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: