ภูเก็ต อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจสอบสำนักงานกฎหมายและจัดทำบัญชีแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ฉลอง และเข้าตรวจสอบเป้าหมายที่เป็นเครือข่ายอีก 2 แห่ง “นอมินี” ให้คนต่างด้าว เกือบ 70 บริษัท
วันนี้ (15 มิ.ย.66) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจสอบสำนักงานกฎหมายและจัดทำบัญชีแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต และเข้าตรวจสอบเป้าหมายที่เป็นเครือข่ายอีก 2 แห่ง โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบพนักงานยังมีการทำงานปกติ จึงได้แสดงตัว และเข้าตรวจสอบ ก่อนสอบปากคำเบื้องต้นเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในระหว่างนั้นยังมีลูกค้าที่มาติดต่อขอจัดตั้งบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
พ.ต.ต.สุริยา เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้เข้าทำการตรวจค้นสำนักงานกฎหมายและจัดทำบัญชีในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ กับฝ่ายปกครอง โดยผู้ว่าฯ ภูเก็ต ซึ่งมอบหมายรองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนวยความสะดวกในการเข้าตรวจค้น โดยได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 1 บริษัท จำนวน 3 จุด ซึ่งมีความเชื่อมโยงกัน ตามพยานหลักฐานที่มีการสืบสวนมาก่อนหน้านี้ และมีความน่าเชื่อว่า สำนักงานกฎหมายและจัดทำบัญชีแห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการจดทะเบียนบริษัทให้กับคนต่างชาติที่เข้าข่ายนอมินี โดยมีเจ้าของบริษัทเป็นหญิงไทยซึ่งมีสามีเป็นชาวอังกฤษ ในบริษัทมีพนักงานและเจ้าหน้าที่ ประมาณ 40 คน
“จากพยานหลักฐานที่ตรวจพบ และสืบเนื่องจากการสืบสวนมาก่อนหน้านี้ พบว่าบริษัทกฎหมายดังกล่าวจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติเป็นจำนวนเกือบ 100 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับที่ดิน ประมาณ 44 บริษัท มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวรัสเซีย แต่ละบริษัทมีการประกอบธุรกิจบางส่วนที่ต้องห้ามสำหรับบุคคลต่างด้าว เช่น การครอบครองอสังหาริมทรัพย์หรือที่ดิน หรือเมื่อมีการครอบครองแล้วปล่อยเช่า หรือการซื้อขายเปลี่ยนมือ นอกจากนี้ยังมีการ ประกอบอาชีพอื่นๆ ที่เข้าลักษณะต้องห้ามด้วย การสืบสวนยังพบว่า มีการดำเนินการมาแล้วกว่า 15 ปี แต่ไม่เคยถูกจับกุม” 
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า การดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น ได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นเชิงรุกในการปราบปราม ในอดีตจะดำเนินการต่อกลุ่มเป้าหมายที่เป็นบริษัทนอมินี แม้จะมีการจับกุมต่อเนื่องแต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น จึงมีการสืบสวนเชิงลึกร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง จนทราบถึงต้นตอของการกระทำผิดว่า มาจากสำนักงานกฎหมายและจัดทำบัญชี เป็นจุดเริ่มต้นที่ไปชักชวนต่างชาติบางส่วนหลงเชื่อ และมีบางส่วนที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นการกรทำที่ผิดกฎหมาย และมาใช้บริการสำนักงานกฎหมายในการยื่นจดทะเบียนบริษัท ทำให้ได้สิทธิในการที่นำไปครอบครองและถือครองที่ดิน ตลอดจนอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอย่างอื่นได้ด้วย เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกัน
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวอีกว่า ลักษณะการทำผิดในรูปแบบนี้กระจายในพื้นที่ภูเก็ต เชียงใหม่ หรือพื้นที่ท่องเที่ยวในภาคตะวันออก และเป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าสูงๆ โดยต่างชาติได้เข้ามาอาศัยวิธีการในลักษณะเช่นนี้ในการมาถือครองหรือครอบครองที่ดินที่มีมูลค่าสูง ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากการซื้อขายที่ดิน โดยผ่านบริษัทนอมินี ไม่ใช่การซื้อขายปกติ เนื่องจากการซื้อขายปกติจะมีการพบเจอกันและเป็นคู่สัญญากันระหว่างบุคลต่อบุคคล แต่กรณีนี้ต่างชาติเป็นเจ้าของบริษัทแท้จริง โดยมีคนไทยเป็นกรรมการร่วมด้วยแต่เป็นนอมินี้ ซึ่งการซื้อขายเป็นแค่การเปลี่ยนกรรมการบริษัทผู้ถือหุ้นเท่านั้น แต่ไม่ได้มีการซื้อขายกันจริง เพราะตามระเบียบจะมีค่าภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมแล้วประมาณ 10% ในการซื้อแต่ละครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดซึ่งที่ดินมีมูลค่าสูง และต่างชาติซื้อขายโดยการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นทำให้หลีกเลี่ยงการเสียภาษี ส่วนใหญ่ปัญหาที่กระทบตามมา คือ ที่ดินจะตกเป็นของต่างชาติ
