ภูเก็ต เกิดเหตุภายในทางลอดอุโมงค์โลตัส ขาเข้า เมือง ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เก๋งเสียหลักหมุนชนรถพ่วงบรรทุกน้ำมัน ฟาดแท่งแบริเออร์ สภาพรถพังยับทั้งคัน
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 พ.ต.ต.อุดมเพชรรัตน์ สว. (สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกัน ภายในทางลอดอุโมงค์โลตัส ขาเข้า เมือง ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ก่อนเดินทางไปสอบสวนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สายตรวจจราจร และเจ้าหน้าที่ กู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ มาสด้า CX 3 สีแดง ทะเบียน กอ-845 ภูเก็ต สภาพรถพังเสียหายยับทั้งคัน ห่างกันประมาณ 50 เมตร พบรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกน้ำมันพืช ทะเบียน 70-9450 เพชรบุรี ได้รับความเสียหายบริเวณ กันชนด้านหน้าขวา ล้อหน้าขวาและล้อหลังด้านขวายางระเบิด
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า รถทั้ง 2 คัน ได้ขับขี่มาจาก ถนนบายพาส (เฉลิมพระเกียรติร. 9) และได้ลงมาในอุโมงค์ทางลอด เมื่อถึงที่เกิดเหตุ รถบรรทุกน้ำมันคันดังกล่าวได้วิ่งอยู่เลนด้านซ้าย ส่วนรถเก๋งมาสด้า วิ่งอยู่ด้านเลนขวาและได้เสียหลัก เบียดรถพ่วงบรรทุกน้ำมัน ทำให้รถเก๋งเสียหลักหมุน ไปฟาดกับแท่งแบริเออร์ จากนั้นโดนล้อด้านหลังของรถพ่วงบรรทุกน้ำมัน เหยียบจนได้รับความเสียหาย แต่เคราะห์ดีคนขับรถเก๋งผู้หญิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และญาติได้นำส่ง รพ.ไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- ‼️คุมเข้มทุกตารางนิ้ว-หลัง ผกร.เหิมหนัก บึ้ม จนท.
- จัดยิ่งใหญ่ "กีฬาบ้านแก้งสัมพันธ์" สร้างสุขภาพ-สร้างความสามัคคี คนร่วมงานกว่าพันคน
- มุกดาหาร-มักง่ายจุดไฟเผาขยะข้างกองยาง ลุกลามไหม้เป็นกองเพลิง
- ตรัง จับแล้วมือค้อนทุบหัวฆ่าโหดพ่อค้าปลาสวยงาม กลางงานลอยกระทงกันตัง ทิ้งศพกลางงาน หลักฐานชัด จุดทิ้งมือถือ-โผล่กดเงินสดผู้ตาย
ด้านนายพรชัย เหมนแก้ว อายุ 39 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมัน เล่าว่า ตนขับมาจากบางสวรรค์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อมาส่งน้ำมันที่คลังน้ำมัน อ่าวมะขาม อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตนขับมา ซึ่งเขาอยู่ด้านขวา พอมาถึงเหมือนกับเขาหลับในแล้วเสียหลัก ตนเลยเบรก และได้เกิดเหตุดังกล่าว
หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน และได้เร่งเคลียร์การจราจร เป็นการด่วน เพื่อป้องกัน การจราจรติดขัดในช่วงเช้า และได้ประสานรถกู้ซาก เพื่อนำรถทั้งสองไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองภูเก็ต และตรวจวัดแอลกอฮอล์ ทั้งคนขับรถเก๋งและคนขับรถพ่วงบรรทุกน้ำมันก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: