รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจดีเอ็นเอจากงาช้าง ซึ่งเป็นของกลางที่ยึดได้จากบ้านของนายเปรมชัย กรรณสูต ซีอีโอบริษัทอิตาเลียนไทย โดยคาดว่าภายใน 3 สัปดาห์ จะทราบผลว่าเป็นช้างเอเชีย หรือแอฟริกา
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ประสานนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบว่า งาช้างที่ยึดได้จากบ้านพักของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาคดีร่วมกันล่าสัตว์ป่าและบุกรุกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
โดยการตรวจดีเอ็นเอครั้งนี้ เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นงาช้างเอเชีย หรืองาช้างแอฟริกา ซึ่งจากข้อมูลที่กรมอุทยานฯได้เก็บรวบรวมไว้ หากเป็นงาช้างแอฟริกา จะมีขนาดใหญ่กว่าปกติมาก ซึ่งหากตรวจสอบจากการดูภายนอกแล้ว พบว่าขนาดไม่ได้ใหญ่ผิดปกติ ก็จะตรวจสอบดีเอ็นเอ ว่าเป็นช้างในโซนใด
สำหรับวันนี้ เจ้าหน้าที่จะสกัดเก็บดีเอ็นเอที่บริเวนโคนของงาช้าง เพื่อนำกลับไปตรวจสอบในห้องแล็ป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์จึงจะทราบผล
ส่วนประเด็นการขออนุญาตครอบครองงาช้างถูกต้องหรือไม่นั้น ทางกองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา กรมอุทยานฯ หรือกองไซเตส ได้เปิดให้ผู้ที่ครอบครองงาช้างมาลงทะเบียน ครั้งล่าสุดมีผู้มาลงทะเบียนกว่า 4 หมื่นชิ้น จึงจะนำผลตรวจดีเอ็นเอของงาช้างที่พบในบ้านนายเปรมชัย ไปเทียบเคียงกับข้อมูลของกองไซเตส ว่างาช้างดังกล่าวมีที่มาอย่างไร และถูกต้องหรือไม่
ซึ่งหากผลเทียบเคียงพบว่า เป็นงาช้างแอฟริกา ก็จะเข้าข่ายความผิด ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์หรือไซเตส
