ภูเก็ต – เรือฟินิกซ์จม พบยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 38 คน ยังสูญหายอีก 18 “ซีล”และนักประดาน้ำเพิ่มความถี่ในการดำน้ำเพื่อสำรวจห้องเครื่องและห้องโถงทุกซอกทุกมุมหลังนักประดาน้ำจากจีน17 นายเสริมทีม นายกฯสั่งยกเครื่องประชาสัมพันธ์เพื่อให้ข้อมูลที่เผยแพร่ชัดเจน พร้อมกำชับห้ามถ่ายรูปศพและเผยแพร่เด็ดขาดเพื่อเคารพสิทธิมนุษยชน
ความคืบหน้าการค้นหาผู้ประสบภัยเรือฟินิกซ์เรือล่ม ห่างจากเกาะเฮ 1.5 ไมล์ทะเล (2.8 กิโลเมตร)หลังแยุติการค้นหาช่วงค่ำวันที่ 6 ก.ค.โดยสรุปการค้นหาในวันที่ 6 ก.ค.พบผู้เสียชีวิต จำนวน 33 คน และยังคงมีผู้สูญหายจำนวน 23 คน ล่าสุดภายหลังการเริ่มการค้นหาในเช้าวันที่ 7 ก.ค. โดยเจ้าหน้าที่หน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจม กองทัพเรือ หรือหน่วยซีล ตำรวจน้ำ หน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต มูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี มูลนิธิท่งเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่ ในการดำน้ำลงไปสำรวจภายในเรือฟิกซ์ที่จมใต้น้ำพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มในตัวเรืออีกจำนวน 5 คนเป็นชาย 4 คน หญิง 1 คนในจำนวนนี้เป็นเด็กชาย 2 คน และลำเลียงศพขึ้นเรือหลวงหัวหิน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตที่พบศพในช่วงเวลา 11.30 น.วันที่ 7 ก.ค.รวมทั้งสิ้น 38 คน และยังสูญหายอีก 18คน
ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม จ.ภูเก็ต เปิดแถลงความคืบหน้าวันนี้ โดยนายนรภัทร ปลอดทอง ผวจ.ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม จ.ภูเก็ต โดยพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย ทำให้ตัวเลขล่าสุด ผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือล่มเพิ่มเป็น 38 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 18 ราย ขณะเดียวกันในส่วนของศพผู้เสียชีวิตที่ค้นพบเมื่อวันที่ 6 ก.ค. กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตแล้วเสร็จ 17 ราย พร้อมส่งให้ญาติและครอบครัวรับไปบำเพ็ญกุุศลตามประเพณี และท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ได้ตั้งศูนย์ประสานงาน 2 จุด ที่ฝั่งขาเข้าในประเทศ และขาเข้าต่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ญาติผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต โดยจะมีล่ามประกบ 1 ต่อ 1
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตระบุว่าเมื่อการค้นหาใต้น้ำดำเนินการครบทุกซอกทุกมุมของเรือฟินิกซ์แล้ว พื้นที่ค้นหาจะแคบลง และสามารถกำหนดพื้นที่ค้นหาได้ชัดเจน เนื่องจากปัจจัยลมตะวันตกเฉียงใต้พัดมาทิศทางเดียว คือ พัดเข้าฝั่ง จ.ภูเก็ต และอ่าวกระบี่ ซึ่งได้ขอความร่วมมือไปยัง จ.พังงา และ จ.กระบี่ รวมถึง ศร.ชล.เขต 3 และเครือข่ายตาสับปะรด ปูพรมค้นหาอย่างเข้มข้น เพื่อให้พบผู้สูญหายครบตามจำนวน
พล.ร.ต. เจริญพล คุ้มราษี รอง ผบ.ทร.ภาค 3 กล่าวถึงการปฏิบัติงานค้นหาในวันนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้า ที่ประกอบด้วยเฮลิคอปเตอรสลับหมุนเวียนขึ้นบินค้นหาผู้ประสบเหตุตามบริเวณชายฝั่งและทะเล และในระยะที่ไกลออกไปมีการค้นหาขยายเขต โดยเครื่องบินดอร์เนียร์ 228 บินขยายพื้นที่ไปถึงเกาะพีพี และเกาะลันตาของจังหวัดกระบี่ และบริเวณผิวน้ำมีเรือตระเวณจำนวน13 ลำ แต่ยังไม่มีรายงานพบศพผู้เสียชีวิตบนผิวน้ำ ขณะที่การค้นหาใต้น้ำบริเวณเรือฟินิกซ์จม ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเที่ยงวันได้ดำเนินการไปแล้ว 2 เที่ยวแล้ว และเที่ยวที่ 3 กำลังจะลงไปค้นหาบริเวณห้องเครื่อง และห้องโถง ซึ่งเป็นชั้นล่างสุดของเรือฟีนิกซ์ โดยจะค้นทุกซอกทุกมุม โดยมีทีมนักประดาน้ำจากจีน 17 นายได้เดินทางมาถึงและร่วมปฺฏิบัติการแล้วและได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์จากกรมสรรพาวุธทหารเรือ คาดว่า วันนี้จะสามารถปิดสถานการณ์การค้นหาใต้น้ำได้ และจะเพิ่มความถี่การค้นหาบริเวณผิวน้ำให้มากขึ้น ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนจีนตั้งข้อสังสัยว่าภายในเรือที่เป็นห้องปรับอากาศและอาจมีอากาศอยู่อาจจะยังมีผู้รอดชีวิตนั้น พล.ร.ต.เจริญผล ระบุว่าโอกาสรอดชีวิตภายในเรือที่จมมีโอกาสน้อย แต่เจ้าหน้าที่จะต้องค้นหาทุกซอกทุกมุมจนแน่ใจ
พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผบ.มทบ.ที่ 41 ระบุว่ากองทัพบก สนับสนุนภารกิจการค้นหาโดยจัดตั้ง กองอำนวยการร่วมบรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาค 4 ประกอบด้วย กองอำนวยการ ชุดแพทย์ พยาบาล จากค่ายวิภาวดี และค่ายเทพสตรีศรีสุนทร จัดตั้งครัวทหารและชุดปฏิบัติการตามภารกิจที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ฯ ร้องขอ
ขณะที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เรือล่มกลางทะเลภูเก็ตอย่างสุดซึ้ง โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอย่างดีที่สุด ทั้งการอำนวยความสะดวกแก่ญาติและจัดการเรื่องศพให้เรียบร้อย พร้อมทั้งได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือแสดงความเสียใจไปยังประเทศบ้านเกิดของผู้เสียชีวิตด้วยแล้ว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้ดูแลผู้บาดเจ็บทุกราย และระดมสรรพกำลังความร่วมมือทั้งด้านบุคลากรและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อค้นหาผู้สูญหายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และย้ำว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ จึงขอให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุว่าเกิดจากอะไร และใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง
สำหรับแนวทางการปฏิบัตินับจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้จังหวัดภูเก็ตจัดตั้งศูนย์อำนวยการประสานงานค้นหาผู้สูญหายและประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร โดยขอให้แบ่งสัดส่วนพื้นที่การทำงานของทุกฝ่าย เพื่อให้มีการสื่อสารที่ชัดเจน และจัดให้มีการแถลงข่าวเป็นวงรอบโดยให้ ผวจ.ภูเก็ต เป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารมีความเป็นเอกภาพ เช่น ตัวเลขผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ หรือสูญหาย และการช่วยเหลือของภาครัฐ และบริษัทนำเที่ยว เป็นต้นและขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนง ไม่นำเสนอภาพผู้เสียชีวิต เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากลและสิทธิมนุษยชน รวมทั้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและหน่วยกู้ภัยที่เข้าปฏิบัติงาน งดเว้นการถ่ายรูปผู้เสียชีวิตด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือแล้วส่งให้คนรู้จัก เพราะท้ายที่สุดภาพดังกล่าวอาจหลุดรอดเผยแพร่ออกไป โดยไม่ทันระวัง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย
สรุปสถานการณ์การค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม จ.ภูเก็ต ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 5 ก.ค.จนถึงเวลา14.20 น.วันที่ 7 ก.ค.ดังนี้
เรือฟินิกซ์ไดร์วิ่ง ที่จมใต้น้ำ มีผู้โดยสาร 93 คน ลูกเรือและไกด์ 12 คน รวมเป็น 105 คนช่วยเหลือแล้ว 82 เสียชีวิต 38 คน กำลังค้นหาเพื่อให้ความช่วยเหลืออีก 18 คน
เรือเซเนริก้า ผู้โดยสาร 35 คน ลูกเรือแบะไกด์ 7 คน รวมเป็น 42 คน ช่วยเหลือได้ทั้งหมด 42 คน ไม่มีเสียชีวิต
เรือเจ๊ทสกี 2 คน ช่วยเหลือได้ 2 คน ไม่มีเสียชีวิต
สรุป ณ เวลา 14.20 น.วันที่ 7 ก.ค.2561 มีผู้ประสบเหตุทั้งหมด 149 คน ช่วยได้แล้ว 126 คน เสียชีวิต 38 คนคงเหลือที่กำลังให้ความช่วยเหลืออีก 18 คน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: