นครราชสีมา-ชาวพิมายฟ้องศาลปกครอง เพื่อมีคำสั่งหรือคำพิพากษาระงับการใช้อำนาจของ อธิบดีกรมศิลปากร ที่ประกาศขยายแนวเขต โบราณสถานเมืองพิมาย จากเดิม 115 ไร่เป็นเนื้อที่กว่า 2,600 ไร่ ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบปราสาทหิน 2 ตำบล
วันนี้ที่ศาลปกครองนครราชสีมา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และตัวแทนชาวพิมาย โคราช ได้เดินทางมาศาลปกครองนครราชสีมาเพื่อยื่นฟ้องอธิบดีกรมศิลปากร และกรมศิลปากร ฐานใช้อำนาจทางปกครองไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 9(1)และ(2) ของ พรบ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 นายศรีสุวรรณ ระบุว่าตามที่อธิบดีกรมศิลปากรดำเนินการประกาศขยายเขตที่ดินกว่า 2,658 ไร่ในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ให้เป็นเขตที่ดินโบราณสถาน ตาม พรบ.โบราณสถานฯ 2504 เพิ่มมากขึ้นจากแนวกำแพงเมืองพิมายเดิม เนื้อที่115 ไร่ ซึ่งจะกระทบต่อชาวบ้านกว่า 1,665 ราย ที่ปลูกสร้างบ้านเรือนและมีโฉนดที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ในพื้นที่ที่จะถูกขยายเขตกำหนดเป็นเขตโบราณสถานฯเพิ่มดังกล่าว จะทำให้ไม่สามารถปลูกสร้างบ้านเรือนหรือดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจใดได้หากไม่ได้รับการอนุญาตจากอธิบดีกรมศิลปากร ทั้งที่การประกาศเขตพื้นที่โบราณสถานเพื่อควบคุมความสูงของอาคาร ควรประกาศเฉพาะจุดที่เป็นแหล่งโบราณสถาน เพื่ออนุรักษ์คุณค่าทางศิลปะของโบราณสถานที่แท้จริงเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่าการใช้อำนาจของอธิบดีกรมศิลปากร ไม่เป็นไปตามรูปแบบขั้นตอนและวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 รวมทั้ง พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 ฉบับแก้ไขปี พ.ศ.2545 และ พรบ.วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง 2539 สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยและชาวพิมาย จึงต้องนำความมาฟ้องต่อศาลปกครองนครราชสีมาเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาระงับการใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของอธิบดีกรมศิลปากรต่อไป
การประกาศขยายแนวเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมายของกรมศิลปากรครั้งนี้ ถูกชาวบ้านในพื้นที่เทศบาลตำบลพิมาย และตำบลในเมือง เคลื่อนไหวคัดค้าน โดยการติดป้ายทั่วเมืองพิมาย ตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยในประกาศระบุว่า อาคาร บ้านเรือน และที่ดิน เนื้อที่กว่า 2,600 ไร่ ถูกกำหนดให้เป็นเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมาย หากผู้ที่ครอบครองไม่เห็นด้วย สามารถยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้ภายใน 30 วัน ทำให้ชาวพิมายที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสำหรับการประกาศขยายแนวเขตโบราณสถานเมืองพิมายของกรมศิลปากรครั้งนี้ มีเหตุผลด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยตัวเมืองพิมายถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นที่ดินโบราณสถานเมืองพิมายตั้งแต่ปี 2479 แนวเขตตามประกาศในครั้งนั้น ครอบคลุมตัวเมืองพิมาย 2.1 ตารางกิโลเมตร แต่ปราสาทหินพิมายยังมีองค์ประกอบหลักของเมืองโบราณอีก 8 อย่าง เช่น เมรุพรหมทัต ประตูชัย สระน้ำโบราณ หรือ บารายทั้ง 4 มุมเมือง ซึ่งชาวขอมโบราณสร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 17 องค์ประกอบที่จะเกิดขึ้นจากการขยายแนวเขตซึ่งจะมากเพียงพอ ที่จะผลักดันให้เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ ที่เชื่อมโยงอารยธรรมขอมโบราณที่นครวัด-นครธม แต่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เห็นด้วยเพราะเป็นการประกาศขยายแนวเขตที่กินเนื้อที่กว้างเกินไป.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: