เลือกตั้งนายกอบจ.นครพนมเห็นเค้าเป็นการเมือง 4 ก๊กเต็มๆ อีกรอบเมื่อ “สมชอบ นิติพจน์” นายกอบจ.คนปัจจุบันที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจสนับสนุน”พลังประชารัฐ”แบบสุดลิ่ม ตั้งเป้าตีตั๋วนั่งเก้าอี้อีกสมัย
มิตรที่กลายเป็นศรัตรูก็อีกขั้วหนึ่ง พลังประชารัฐก็มีตัวเลือกสายตรงไว้ในใจ แถมยังมีตัวสอดแทรกที่จับทิศทางยากอย่าง”อนาคตใหม่”ที่เปิดตัวแบบหวือหวา จึงไม่ง่ายกับสมชอบเท่าใดนัก
การสั่งปลด 2 รองนายกอบจ.หลัง คสช.คืนตำแหน่งที่ถูกพักงาน 3 ปี ครึ่ง เมื่อ 4 ก.พ.ที่ผ่านมาหลังขึ้นเวทีสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ในศึกเลือกตั้งส.ส.ที่ผ่านมา แว่วว่าเป็นการสับร่างเพื่อเคลียร์ตัวเองหลังเคยอิงแอบกับฐาการเมืองต่างขั้ว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสมชอบชนะการเลือกตั้งเป็นนายกอบจ.นครพนมส่วนหนึ่งมาจากแรงสนับสนุนจากเครือข่ายขาเก๋าทางการเมืองของ”สิงห์เหนือ” ครูแก้ว ศุภชัย โพธิ์สุ และ”เสือใต้”ไพจิตร ศรีวรขาน เมื่อชนะการเลือกตั้งภรรยาของผู้เสนับสนุนหลักก็ได้ตำแหน่งรองนายกอบจ.เป็นรางวัล
สุจินดา ศรีวรขาน ภรรยาของไพจิตร นั่ง รองนายก อบจ.นครพนม คนที่ 1 พูนสุข โพธิ์สุ ภรรยาของครูแก้ว นั่งรองนายก อบจ.นครพนม คนที่ 2
แต่การเมืองมันไม่แน่ เลือกตั้งส.ส.ล่าสุด เพื่อไทยกวาด 3 เก้าอี้ ภูมิใจไทย 1 เก้าอี้ ทั้งไพจิตร และครูแก้วกลับมาเป็นส.ส.เหมือนเดิม ส่วนพลังประชารัฐแจ้งเกิดไม่สำเร็จ
เมื่อกระแสพลังประชารัฐที่นครพนมไม่เป็นตามคาดสมชอบก็คงขยาดหากจะลงสมัครนายกอบจ.ในนามพรรคพลังประชารัฐ ที่มากกว่านั้นยังมี”สายตรง”ที่มีกำลังภายในทั้งผลักทั้งดันเต็มที่เพื่อเพื่อให้ลงสมัครนายกอบจ.นครพนมในนามพลังประชารัฐ เป็น “ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ” หลานสาวบิ๊กจิ๋วที่สอบตกจากลงสมัครส.ส.นครพนมพรรคพลังประชารัฐลงสมัครล้างตา
“ผึ้ง”ณัฐธ์ภัสส์ ถึงจะถูกมองว่าเป็น”หมาหลง” คนต่างถิ่น ถึงจะแจ้งเกิดในนามส.ส.ไม่สำเร็จแต่การกรุยฐานเสียงที่นครพนมไว้นานของบิ๊กจิ๋วก็เป็นผลาบุญกับหลานสาว ประกอบกับเครื่องมือในการทำคะแนนที่เพียบพร้อม เลือกตั้งนายกอบจ.เที่ยวที่แล้ว สมชอบชนะแบบหืดจับ ณัฐธ์ภัสส์ ได้มา 135,000 คะแนน สมชอบ ชนะด้วยคะแนน 138,000 คะแนน เฉือนกันแค่ 3 พันคะแนน
ณัฐธ์ภัสส์ จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกของพลังประชารัฐ
ย้อนกลับไปดูฝั่ง”สิงห์เหนือ-เสือใต้”ที่เคยอุ้มสมชอบ แต่ถูกหักดิบภรรยาถูกปลดโดยการส่งจดหมายน้อยอ้างข้อตกลงอยู่ในตำแหน่งตามกำหนดเวลายังเกิดอาการแค้นลึก ต่างกำลังจัดโผล้อบบี้จัดทีมลงจ้าละหวั่น แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะลงเอยที่ใคร
3 ก๊กยังมะรุมมะตุ้ม”ณพจน์สกร ทรัพย์สิทธิ” อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อคนไทย น้องชายอดีตส.ส.หลายสมัย อรรถสิทธิ์ (คันคาย)ทรัพย์สิทธิ์ ที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งส.ส.ครั้งที่ผ่านมาได้ลาออก และสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ตั้งเป้าสู้การเมืองท้องถิ่นในสนามอบจ.
ณพจน์สกร ยื่นใบสมัครเพื่อลงสมัครนายกอบจ.ในนามพรรค เพียงทีมเดียวก็ชิงเปิดแถลงข่าวพร้อมโชว์ทีมงานในนามกลุ่มมหานคร นครพนม อย่างครึกโครม
เซียนการเมืองที่นั่งดีดลูกคิดรางแก้ว พร้อมกับมองถึงการเปลี่ยนแปลงที่เอาแน่นอนไม่ได้ ก็มองว่า งานนี้สนามนครพนม 4 ก๊กต้องสู้กันดุเดือดแน่ ๆ
อนาคตใหม่ที่มีคนบอกว่าแค่ตั้งป้ายที่นครพนมแทบไม่หาเสียงก็ได้ 5 หมื่นคะแนน บวกกับฐานเสียงเดิมของ ณพจน์ ที่เคยลงสมัครนายกอบจ.ในการเลือกตั้งครั้งแรก ที่ได้มา 7 หมื่นคะแนน ก็พอที่จะทำให้สมการทางการเมืองปั่นป่วนได้ไม่น้อย
ที่สำคัญคือการเซททีม ส.อบจ.ครบ 30 เขต ที่วางเป้าไว้เขตละ 1 พันคะแนน ก็ชนะแบบลอยลำ…เจ้าตัวฟันธงไว้เช่นนั้น
น่าคิดตามเกมส์การต่อสู้สนามการเมืองท้องถิ่นริมโขงที่ยังคงเป็น อบจ.ขนาดกลาง งบประมาณปีละ 300 กว่าล้าน แต่หลังเปิดสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 นครพนมโตแบบก้าวกระโดด การจัดเก็บภาษีได้ปีละนับแสนล้าน
ส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรมสำหรับเมืองนี้ จะมีนักการเมืองท้องถิ่นคนไหนกล้าที่จะนำการเปลี่ยนแปลง นอกจากจัดทีมผสมร่างเพื่อดึงคะแนนเสียง
