อ่างทอง-สุดทึ่ง!! สองผัวเมียชาวอ่างทอง อยากปลูกบ้านแบบไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ลงทุนซื้อเรือกระแชงโบราณขนาดใหญ่จากจังหวัดอยุธยามาทำเป็นบ้านผสมทรงไทย สวยแปลกไม่เหมือนใคร ตั้งเด่นในพื้นที่กว่า 2 ไร่
เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันนี้ (20 พ.ค. 61) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบยังบ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 6 ต.คลองขนาก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังพบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะแปลกและเป็นจุดเด่นที่นำเอาเรือกระแชงขนาดใหญ่มาทำเป็นบ้าน โดยเมื่อเดินทางไปถึงพบบ้านหลังดังกล่าวตั้งเด่นเป็นสง่า ตระการตาอยู่บนที่ดิน 2 ไร่ ภาพรวมบ้านมีลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น โดยชั้นล่างนำเรือกระแชงขนาดใหญ่มาทำเป็นตัวบ้าน และชั้นบนเป็นบ้านทรงไทยสวยงาม เมื่อเข้าไปยังบริเวณบ้านพบนางสาวนิรชา มูลสุจริต อายุ 34 ปี เจ้าของบ้าน อยู่ที่บ้านกับลูกชาย จึงเข้าไปสอบถาม
จากการสอบถามนางสาวนิรชา กล่าวว่า บ้านหลังนี้ตนอยู่กับสามีและลูกชาย มาปลูกได้เกือบ 3 ปี แล้ว แรกเริ่มเดิมทีนั้น ตนอยู่บ้านพ่อบ้านแม่อีกที่หนึ่งใน พอแต่งงานมีครอบครัวสามีของตนซึ่งทำงานเป็นช่างไฟฟ้าอยู่โรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็ได้มีความคิดจะสร้างบ้าน แต่ไม่อยากสร้างบ้านเหมือนใคร ก็เลยนอนคิดกันว่าจะเอาเรือมาทำเป็นบ้านเนื่องจากสามีชอบส่วนตัว จึงได้เดินทางไปยังอู่ต่อเรือที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และไปพบเรือลำนี้ซึ่งเห็นปุ๊บก็ถูกใจปั๊บ เป็นเรือกระแซงที่สวยงาม จึงได้ติดต่อขอซื้อมาในราคา 280,000 บาท หลังจากซื้อแล้วก็มามีปัญหาเรื่องการขนย้ายที่มาอย่างยากลำบาก โดยตนได้จ้างเรือลากมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วมาขึ้นที่ท่าเรือที่แห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนที่จะยกขึ้นเรือเทรลเลอร์แล้วขนมาที่บ้าน และใช้เครน 2 ตัว ยกลงมาติดตั้งบนพื้นที่ที่เตรียมเอาไว้ โดยเรือกระแซงลำนี้มีขนาดยาว17 เมตร และกว้างประมาณ 4 เมตร ซึ่งในการขนย้ายเป็นไปอย่างยากลำบาก หมดเงินในการขนย้ายไป 60,000 บาท เป็นค่ารถเทลเลอร์ 30,000 บาท และค่าจ้างท่าเรือนำขึ้นอีก 30,000 บาท
นางสาวนิรชา กล่าวต่อว่า หลังจากขนมาจะนำเข้ามายังที่ดินที่จะสร้างบ้าน ก็เจอปัญหา รถเทลเลอร์เข้าไม่ได้เนื่องจากถนนและพื้นข้างถนนเป็นหลุม ติดนู้นติดนี่หลายอย่าง สามีของตนจึงได้บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางในละแวก และบอกกล่าวแม่ย่านางเรือว่าขอให้มาอยู่ด้วยกัน ขอให้นำเรือเข้าที่ดินแบบง่าย ๆ ไม่น่าเชื่อเพียงครู่เดียวมีลมกรรโชกจนต้นยางที่เรียงรายอยู่หน้าวัดหน้าบ้านของต้นนั้น เอียงลู่กันไปทิศทางเดียวกัน ก่อนที่รถเทลเลอร์จะขนย้ายและเดินทางเข้าที่ดินของตนอย่างง่ายดาย ทำให้ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นขนลุซู่กันไปตาม ๆ กัน ซึ่งพวกผู้เฒ่าผู้แก่และญาติ ๆ ของตนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ลมที่พัดนั้นเป็นเรื่องของสิ่งเร้นลับเช่นเจ้าที่เจ้าทางกับแม่ย่านางเรือ เขาต้อนรับกัน ซึ่งเมื่อเครนยกเรือลงจากรถเทลเลอร์แล้วนำไปติดตั้งบนฐานที่ทำรอไว้ ทางช่างที่ก่อสร้างก็ได้บอกกล่าวแม่ย่านางอีกรอบ ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกือบ 3 ปี แล้วที่ก่อสร้างมา หมดค่าดำเนินการสร้างบ้านเรือหลังนี้กว่า 1 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพเรือกระแซงลำใหญ่ลำนี้มีสภาพที่สมบูรณ์สวยงาม ด้านในเจ้าของบ้านยังคงไว้ซึ่งสภาพเรือ ไม้ที่ทำเป็นโครงเรือเป็นไม้เก่าแก่ขนาดยาวและใหญ่ ไม้โครงไม่มีการต่อหรือดามไม้ สภาพไม้แข็งแรงไม่แตกร้าว ทางเจ้าของบ้านมาตกแต่งเพิ่มเติมดูสวยงามไปอีกแบบ อีกทั้งยังไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครตามความประสงค์ของเจ้าของบ้าน
