ออสเตรเลียขยายแผนปล่อยเงินกู้ช่วยภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) พร้อมเพิ่มวงเงินให้มากขึ้น หลังวิกฤตการระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
นาย จอช ฟรายเดนเบิร์ก (Josh Frydenberg) รัฐมนตรีคลังออสเตรเลียเปิดเผยว่า รัฐบาลตัดสินใจขยายโครงการประกันเงินกู้เพื่อช่วยภาคธุรกิจเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 รวมถึงเพิ่มเพดานวงเงินกู้จากเดิม 250,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย มาอยู่ที่ 1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
สำหรับการขยายโครงการประกันเงินกู้ครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทขนาดเล็กที่มีเงินหมุนเวียนในบริษัทต่ำกว่า 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สามารถยื่นเรื่องขอกู้เงินเพื่อนำไปใช้เพื่อการลงทุนได้ จากระเบียบเดิมในปัจจุบันที่อนุญาตให้กู้เพื่อนำไปใช้เป็นทุนดำเนินการปฎิบัติงานของบริษัทเท่านั้น โดยโครงการประกันเงินกู้ของรัฐบาลมีกำหนดเริ่มตั้นในเดือนตุลาคมนี้ ก่อนจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนปี 2021
แถลงการณ์ของรัฐมนตรีคลังออสเตรเลียระบุว่า การขยายโครงการดังกล่าวจะเป็นหลักประกันช่วยให้ภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กของประเทศฟื้นฟูกิจการออกจากภาวะจำศึล ประสบความสำเร็จกับการปรับตัวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจหลังโควิด-19 และเดินหน้าลงทุนเพื่ออนาคต
ทั้งนี้ ภายใต้โครงการประกันเงินกู้ รัฐบาลออสเตรเลียจะเป็นผู้รับประกันเงินกู้ 50% ให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีที่ยื่นเรื่องของกู้เงิน พร้อมขยายเวลาชำระเงินคืนเพิ่มขึ้นจาก 3 ปี เป็น 5 ปี ขณะเดียวกัน โครงการดังกล่าวยังให้อำนาจในการพักชำระหนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของทางธนาคาร
การระบาดของไวรัสโควิด-19 กำลังสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของออสเตรเลียอย่างหนักหน่วง โดยรัฐบาลออสเตรเลียได้วางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเงินมากกว่า 160,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 8% ของจีดีพีเพื่อฟื้นเศรฐกิจของประเทศจากภาวะซบเซาเพราะไวรัสโควิด-19
จนถึงขณะนี้ ทางการออสเตรเลียประเมินว่า มีธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศเข้ายื่นเรื่องของกู้เงินแล้วมากกว่า 15,600 แห่ง
ที่มา Channel News Asia
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: