ข้าวดอกพะยอม พันธุ์ข้าวพระราชทาน ออกรวงเตรียมเก็บเกี่ยว หลังเจ้าอาวาสวัดนาเมืองเพชร พระเกจิดังนักพัฒนาปรับพื้นที่ป่าช้าเก่าข้างวัด ร่วมกับชาวบ้านหว่านเมล็ด เพื่อนำมาแจกจ่ายให้ชาวบ้าน ผู้ยากไร้ ฟรี คาดปีนี้จะเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกได้ประมาณ 42 ตัน
ข้าวดอกพะยอม วันนี้ 22 พฤศจิกายน 2562 เวลา 09.00 น. ที่วัดนาเมืองเพชร ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง พระครูปัญญาวัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาเมืองเพชร ได้นำผู้สื่อข่าวชมแปลง “ข้าวพันธุ์ดอกพะยอม” ข้าวพระราชทาน ที่กำลังออกรวงเหลืองอร่ามไปทั่วท้องทุ่ง หลังจากที่เจ้าอาวาสฯ และชาวบ้านร่วมกันหว่านเมล็ดข้าวเมื่อวันที่ 26 ก.ค.62 ที่ผ่านมา
ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้มาแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านที่ยากจน โดยปีนี้ได้ลงแขกหว่านข้าวปลูกเป็นปีที่ 5 แล้ว โดยปรับพื้นที่ป่าช้าเก่าจำนวน 6 ไร่เศษ และพาผู้สื่อข่าวไปชมแปลงปลูกข้าวแปลงใหญ่บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ในพื้นที่ ม.5 ต.โคกยาง อ.กันตัง โดยมี นายทวี ทองเสน่ห์ อดีตรองนายก อบต.โคกยาง นายอาทร โชติกมาศ รองนายก อบต.โคกยาง นายสมบัติ ทดแทน ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 บ้านหนองเม่า และชาวบ้านได้มาช่วยกันหว่านเมล็ดดูแลรักษาจนใกล้เวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือน ธ.ค.นี้
พระครูปัญญา กล่าวว่า อาตมาคิดว่าเรื่องปากท้องเป็นสิ่งจำเป็นต่อชาวบ้านมากที่สุด ตั้งใจปลูกข้าวแจกจ่ายเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ดำเนินรอยตามแนวพระราชดำรัสในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระราชทานข้าวให้กับประชาชน คือข้าวพันธุ์ดอกพะยอม โดยทางวัดก็จะเป็นศูนย์กลางในการจัดรับพันธุ์ข้าวพระราชทาน และทำการแจกจ่ายให้กับประชาชน
เพื่อมอบให้ชาวบ้านไปปลูก ซึ่งปกติจะปลูกที่ทุ่งนาแต่ตอนนี้สามารถปลูกแซมสวนยางได้ ซึ่งที่วัดมีการปรับป่าช้าเก่าและปลูกข้าวแจกคนยากจนมาเป็นเวลา 4-5 ปี ประชาชนได้ข้าวกินโดยไม่ต้องซื้อ สามารถมารับได้ทุกอำเภอ คิดว่าประมาณเดือน ธ.ค. นี้ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซึ่งข้าวนี้เป็นข้าวที่มีเม็ดงาม เมื่อได้มาเห็นแบบนี้มีความปลื้มใจ ดีใจ ในแต่ละปีทางวัดจะเก็บผลผลิตเป็นข้าวเปลือกได้ประมาณ 42 ตัน
และนำไปจ้างสีข้าวที่โรงสี เป็นข้าวสารประมาณ 3,000 กิโลกรัมต่อปี ซึ่งเพียงพอต่อการแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ยากจนจริงๆ อาตมาตั้งใจและมีโครงการเรียนเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาร่วมพิธี ถึงวันเวลาเกี่ยวข้าวจะเชิญหน่วยงานต่างๆ มาร่วมและมารับข้าวสารฟรี
ทางด้าน นายทวี ทองเสน่ห์ อดีตรองนายก อบต.โคกยาง กล่าวด้วยว่า ข้าวไร่จะได้น้อยกว่าข้าวนา คิดว่าไร่ละ 1 เกวียน ประมาณ 1,000 กก. ชาวบ้านตรงนี้มีมีปัญหาความลำบาก ตนจึงได้คุยกับคนในชุมชนว่าจะหาวิธีการเสริมสร้างอาชีพเพิ่มตรงนี้ ได้อย่างไร
จึงได้ปรึกษาพระครูปัญญาวัชราภรณ์ และชาวบ้าน ระดมความคิดกันมาปลูกข้าวพันธุ์ดอกพะยอม ซึ่งเป็นข้าวที่ทนกับพื้นที่ไม่ต้องใช้น้ำมาก สามารถปลูกแซมยางได้และเป็นการรักษาหน้าดินด้วย เพื่อไม่ให้หน้าดินเสีย ซึ่งที่ดินดังกล่าวนี้เป็นของอาจารย์สกาวรัตน์ ศรีพรมทัศน์ ที่อนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือและมาร่วมลงมือปลูกข้าวกับชาวบ้านด้วย.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: