ป่วยโรคไต ระยะสุดท้าย สาววัย 36 ปีแม่เลี้ยงเดี่ยววอนผู้ใจบุญขับรถผ่านถนนสายตรัง-ปะเหลียน (ศาลานายายหม่อม) แวะเลือกซื้อฝาชีแฟนซี เพื่อจะได้นำเงินไปส่งลูกสาวเรียนหนังสือ ส่วนที่เหลือนำไปเป็นค่าใช้จ่ายส่วนเกินในการฟอกไตสัปดาห์ละ 3 วัน
ป่วยโรคไต ระยะสุดท้าย วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ที่บริเวณใกล้ๆศาลาริมถนนสายตรัง-ปะเหลียน (นายายหม่อม) ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ก่อนถึงโรงพยาบาลย่านตาขาวประมาณ 400 เมตร พบนางนวพร ไทรบุรี อายุ 36 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ย่านตาขาว ป่วยเป็นโรคไตระยะสุดท้าย
กำลังนั่งทำและขายฝาชีแฟนซีให้กับลูกค้าที่ขับรถผ่านไป-มา ซึ่งมีตั้งแต่ราคาใบละ 100-500 บาทแล้วแต่ขนาดและลวดลาย นอกจากนี้ ยังมีกล่องใส่กระดาษทิชชูรูปหงส์ ที่ทำจากไพ่ขาว ล้วนแต่เป็นฝีมือของตนวางขายด้วย
ฝาชีแฟนซี 1 ฝาจะให้เวลาทำนานพอสมควร เช่น ฝาชีอันใหญ่ขนาด 22 นิ้ว ต้องใช้เวลาทำนานประมาณ 5-6 วัน ส่วนฝาชีอันเล็กใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน ทุกชิ้นล้วนเป็นงานฝีมือที่ทำขึ้นมา เพื่อเป็นรายได้ในการส่งเสียลูกสาววัย 13 ปี ให้ได้เรียนหนังสือ ส่วนเงินที่เหลือจะนำไปเป็นค่ารักษาตัว ค่าเดินทางและค่ายา เนื่องจากจะต้องไปโรงพยาบาลตรังเพื่อฟอกไตสัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยขี่รถจักรยานยนต์ไป-กลับจากอำเภอย่านตาขาว-โรงพยาบาลตรัง
ในการทำฝาชีแฟนซี นางนวพร ไทรบุรี เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้เรียนการทำฝาชีแฟนซีด้วยริบบิ้นหลากสีมาจากพี่สาว โดยใช้เวลาเรียนประมาณ 2 เดือน ก็สามารถทำออกขายได้ โดยเริ่มจากฝาชีที่บ้านก่อน ก่อนจะไปซื้อฝาชีจากตลาดมาทำขาย และขายมานาน 4-5 เดือนแล้ว แต่ขายอาทิตย์ละ 4 วัน คือวันอาทิตย์,วันจันทร์,วันพุธและวันศุกร์ ที่เหลืออีก 3 วัน ต้องไปฟอกไตที่โรงพยาบาลตรัง
และยังต้องอาศัยหน้าบ้านของเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ถนนฝั่งตรงกันข้ามเป็นที่วางขาย ส่วนสามีนั้นทิ้งเธอไปตั้งแต่เธอเริ่มฟอกไตเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ภาระทั้งหมดจึงตกอยู่ที่เธอ ซึ่งเธอไม่เคยเรียกร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ แม้จะทำงานหนักไม่ได้ ร่างกายเริ่มอ่อนล้าแต่ยืนยันว่าจะทำฝาชีแฟนซีขายเลี้ยงชีพต่อไป ขอเพียงลูกค้าแวะอุดหนุนก็ดีใจมากแล้ว และที่สำคัญเธอไม่มีโทรศัพท์ติดต่อ อาศัยขอให้เพื่อนลงเฟซบุ๊กขายฝาชีแฟนซีบ้าง แต่ตอนนี้ยกเลิกไปแล้ว
ส่วนใครสนใจที่จะช่วยเหลือนางนวพร ไทรบุรี ก็สามารถแวะซื้อได้โดยตรงที่ริมถนนสายตรัง-ปะเหลียน (ฝั่งเดียวกับการไฟฟ้าย่านตาข่าว บริเวณศาลาสีเหลืองขวามือหากมาจากตัวเมืองตรัง) เท่านั้น เธอไม่ขอรับบริจาคเพราะคิดว่าตนเองยังมีแรงที่จะทำงานและสู้กับโรคไตแม้จะระยะสุดท้ายก็ตาม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: