ม.อ. หน่วยกิจการนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการนักพัฒนา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อทำความเข้าใจกับครอบครัวของน้องทิม นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจนสอบติดคณะแพทย์ สร้างความอุ่นใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก และขอปิดบัญชีรับบริจาคตั้งแต่วันนี้ เพื่อป้องกันมิฉาชีพเปิดบัญชีแอบอ้าง ขณะที่ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมฯ โพสต์ FB ” ผมจะประสานค่าใช้จ่ายส่วนที่น้องขาดให้ทั้งหมด จนน้องจบการศึกษาเป็นแพทย์ตามที่หวังไว้” “ขอให้น้องทิมตั้งใจเรียน เป็นคนดีของสังคม จบมาแล้วขอให้มาตอบแทนสังคมให้มากที่สุด”
ม.อ. วันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10.00 น. ที่บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 4 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หัวหน้างานแนะแนวและจัดหางาน กองกิจการนักศึกษาร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ทุนการศึกษา และฝ่ายกิจการนักพัฒนา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พร้อมคณะครูโรงเรียนสามัคคีศึกษา เดินทางเข้าชี้แจงทำความเข้าใจกับนายเปลื้อม ทรัพย์ส่ง อายุ 68 ปีและครอบครัว
เกี่ยวกับเรื่องทุนการศึกษาของคณะแพทย์ ซึ่งจะดูแลนายดวงเกียรติ ทรัพย์ส่ง(น้องทิม) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสามัคคีศึกษา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งสอบติดคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพิ่งจะประกาศผลเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา แต่ครอบครัวมีความกังวลใจ เนื่องจากมีฐานะยากจน กลัวว่าจะไม่สามารถส่งเสียน้องทิมให้เรียนแพทย์จนครบ 6 ปีได้
ประกอบการความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเรื่องทุนการศึกษา ที่ก่อนหน้านี้ครอบครัวออกมาบอกว่าจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึงปีละ 400,000 บาท นั้นไม่เป็นความจริง โดยหลังได้อธิบายขั้นตอนต่าง ๆ ให้เข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็ได้สอบถามประวัติและดูสภาพความเป็นอยู่ของน้องทิม เพื่อนำไปเสนอผู้ใหญ่ในมหาวิทยาลัยฯ ต่อไป
โดย น.ส จีรนันท์ ยอดมณี หัวหน้างานแนะแนวและจัดหางาน กองกิจการนักศึกษา ม.อ สงขลานครินทร์กล่าวว่า ได้ชี้แจงเกี่ยวกับการสอบติดแพทย์ไปแล้วว่าทุกคนจะต้องได้เรียน โดยมีทุนการศึกษาให้ค่อนข้างเยอะ ถ้าไม่ได้รับทุนเด็กก็ยังมีเงินกู้ กยศ. หรือไปทำงานแลกเปลี่ยน เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง
ข่าวน่าสนใจ:
แต่ต้องได้เรียนแพทย์จนจบทุกคน ส่วนค่าเล่าเรียนปีละ 4 แสนบาทนั้น ก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่าเป็นเทอมละ 28,000 บาทเท่านั้น ซึ่งสภาพจิตใจเด็กและครอบครัวดีขึ้นมากขณะที่นายดวงเกียรติ ทรัพย์ส่ง (น้องทิม) กล่าวว่า ขอหยุดรับการบริจาคตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป เนื่องจากมีหลายภาคส่วนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแล้ว โดยให้นำเงินที่จะมาบริจาคให้กับตน
ไปช่วยเหลือบุคคลอื่นที่ยังลำบากหรืออาจเป็นช่องทางให้กับมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาหากินโดยแอบอ้างชื่อตน ซึ่งหลัง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทำชี้แจงแล้วตนก็อุ่นใจขึ้นมาก และขอขอบคุณทุกคนทุกกำลังใจ
ด้านนายเปลื้อม ทรัพย์ส่ง อายุ 68 ปี ผู้ปกครองของน้องทิม กล่าวว่า ขอบคุณคณะแพทย์จาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจว่าน้องทิมจะได้รับทุนการศึกษาจากทาง ม.อ ขอบคุณในความหวังดีของคณะแพทย์ และขอบคุณทุกคนที่มารวมน้ำใจ เพื่อช่วยเหลือน้องทิมในครั้งนี้ ในฐานะผู้ปกครองก็ขอขอบคุณทุกคน มาจนถึงวันนี้เป็นความสำเร็จอันใหญ่หลวงของน้องทิมที่มีทุกหน่วยงานเข้ามาดูแลเด็กไม่มีทุนการศึกษา
เมื่อทางคณะแทพย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ให้ทุนแล้วก็พอแล้ว และเงินที่จะส่งเข้าบัญชีของน้องทิมก็ขอปิดในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ และได้ทำความเข้าใจตรงกันแล้ว โดยขอบคุณสื่อช่อง 9 และนักข่าวทุกคนที่มาดูแลตั้งแต่เริ่มต้น ส่วนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็มีด้วยความกังวลใจ และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ปกครอง ซึ่งก็ได้ทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว และขอกล่าวคำว่าขอบคุณ.
ทางด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมฯ โพสต์ FB เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ เวลา 20:02 น. ความว่า จากกรณี น้องทิม นักเรียนโรงเรียนสามัคคีศึกษา จ.ตรัง สอบติดคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาสงขลานครินทร์ได้เป็นคนแรกของการก่อตั้งโรงเรียน แต่บ้านมีฐานะยากจน วอนผู้ใจบุญสานต่อความฝัน
เบื้องต้นทราบว่าทางคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีทุนค่าเทอมและค่าหอพักให้น้อง ตลอด 6 ปี แต่น้องยังขาดเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆ รายเดือน ผมจึงประสานไปยังคุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแจ้งครอบครัวน้องว่า ผมจะประสานค่าใช้จ่ายส่วนที่น้องขาดให้ทั้งหมด จนน้องจบการศึกษาเป็นแพทย์ตามที่หวังไว้ “ขอให้น้องทิมตั้งใจเรียน เป็นคนดีของสังคม จบมาแล้วขอให้มาตอบแทนสังคมให้มากที่สุด”.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: