พริตตี้สาวประเภท 2 ชื่อดังร้องผ่านสื่อเมืองตรัง และ สคบ. ขอให้คลินิกเสริมความงามช่วยรับผิดชอบ หลังฉีดสารฟิวเลอร์เข้าไปแล้วมีอาการแพ้ จนหน้าตาบูดเบี้ยว เป็นหนอง
นายเวชพงษ์ พราหมเภทย์ หรือ น้องโดม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.2 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นพริตตี้สาวประเภท 2 ชื่อดังของเมืองตรัง ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง โดยนำเอกสารหลักฐานการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งมาให้ดู ประกอบด้วยค่ารักษาพยาบาล และแพทย์ผู้ที่ทำการ ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงาม และเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐ ที่มีชื่อเสียงในวงการเสริมสวยความงามของเมืองตรัง และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมหนังสือร้องเรียนถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
โดย นายเวชพงษ์ หรือ น้องโดม เล่าว่า ตนเองได้ฉีดสารฟิวเลอร์ จากคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งของ จ.ตรัง เมื่อเดือนธันวาคม 2559 จนกระทั่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ตนได้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง จนตาปิด ปากบวม และหน้าบิดเบี้ยวผิดรูป ซึ่งจากที่เคยฉีดสารชนิดนี้มา แต่ก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน จึงมั่นใจว่าตนเองแพ้สารตัวนี้ เมื่อได้สอบถามไปยังหมอเจ้าของคลินิคได้รับคำตอบว่า เป็นเรื่องปกติ กระทั่งเมื่อตนเองเข้ารักษากับหมออีกหลายคน ต่างยืนยันว่ามีอาการแพ้ และอยู่ในภาวการณ์ติดเชื้อ ซึ่งเมื่อตนได้หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ก็พบว่า สารฟิลเล่อร์ของคลินิกดังกล่าว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และบ้านเราไม่นิยมใช้กัน
ตนเองมีอาการดังกล่าวเป็นระยะเวลา 27-28 วัน ต้องรักษาด้วยการฉีดและกินยา จนมีอาการเจ็บไปหมดทั้งตัว ส่วนความดันโลหิตสูงก็ขึ้น 200-220 และมีค่าเม็ดเลือดขาวประมาณ 13,000 ซึ่งคนปกติทั่วไปจะไม่ถึงขนาดนี้ ที่ผ่านมาตนเองเคยติดต่อไปยังหมอเจ้าของคลินิกเสริมความงาม 1 ครั้ง และเพื่อนติดต่อให้อีก 1 ครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ถ้าถามว่าอยากจะฟ้องหรือไม่ ตอนแรกตอบเลยว่าไม่ ถ้าหากทุกวันนี้ทางคลินิกได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือเต็มที่ แต่ที่ผ่านมากลับปฏิเสธความรับผิดชอบ และล่าสุดตนก็ต้องจ่ายค่ารักษาไป 6.7 หมื่นบาทแล้ว ดังนั้น จึงจำเป็นต้องออกมาร้องเรียนเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม
“คุณหมอบอกว่า อาการดังกล่าวเกิดจากฟิลเล่อร์ตกค้าง โดยแนวทางการรักษาก็คือ เอาหนองออก จนขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้นมาก แต่ยังต้องรอการทำอัลตร้าซาวด์เพื่อสรุปผลอีกครั้ง เนื่องจากตอนนี้สภาพร่างกายของตนยังไม่พร้อม และหลังจากเกิดเหตุทำให้มีผลกระทบกับตนเองมาก เพราะไม่ได้ทำงานเลย ต้องนอนอยู่บ้านอย่างเดียว อีกทั้งยังไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะตนเองเป็นคนรักสวย จึงขาดความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาการที่ตนเองเป็นอยู่นั้น หมอที่ จ.ตรัง ต่างไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย โดยอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่ก็มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย และอาจมีผลข้างเคียง ซึ่งคาดว่าจะต้องเดินทางไปรักษาที่ กทม.เท่านั้น”
นายเวชพงษ์ หรือ น้องโดม จึงอยากจะฝากบอกกับทุกๆ คนที่อยากสวยแล้วฉีดโน่นฉีดนี่ว่า สามารถทำได้ แต่ต้องศึกษาให้เยอะ เพราะขนาดตนเองเคยเป็นที่ปรึกษาเรื่องความงามยังพลาดได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ถ้าใช้แล้วสวยก็ดีไป แต่ถ้าทุกอย่างพังขึ้นมา ก็จะมีผลกระทบต่อตัวเรา ทั้งงาน ทั้งเงิน เหมือนอย่างเช่นตนเองที่ขณะนี้กำลังมีความเครียดมาก เพราะถ้ารักษาแล้วไม่เหมือนเดิมจะทำอย่างไร และทุกวันนี้ก็พยายามที่จะทำใจยอมรับกับหนองที่ในหน้า และส่วนอื่นๆ อันเนื่องมาจากสารฟิวเลอร์ที่ตกค้าง
