ตรัง บูรณาการรับคนไทยกลับจากประเทศเสี่ยง โดยเฉพาะคนตรังมีข้อมูลกลับสู่ภูมิลำเนาอีกนับร้อยคน ทุกรายต้องกักตัว 14 วัน เชื่อว่าสิ้นเดือนสถานการณ์จังหวัดจะผ่อนคลาย ขณะที่ผู้การตำรวจตรังกล่าวถึงวันนี้มีผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวกว่าร้อยคน และส่งฟ้องศาลทุกราย
ตรัง กักตัว เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 เมษายน 2563 นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วยหน่วยงานความมั่นคง และฝ่ายปกครอง ได้ลงพื้นที่ด่านตรวจคัดกรองโควิด 19 จำนวน 3 จุด ของจังหวัดตรัง หลังจากมีกระแสการเดินทางกลับของชาวไทยมุสลิม ซึ่งมีภูมิลำเนาในจังหวัดตรัง จะทยอยเดินทางเข้ามาพื้นที่จังหวัดตรังตั้งแต่วันนี้ จึงได้มีมาตรการเข้มในการตรวจสอบบุคคล ที่จะเข้ามาในจังหวัดช่วงนี้เป็นพิเศษ ร่วมทั้งกำชับการลักลอบเข้ามาในเส้นทางอื่นๆ อีกด้วย
จากนั้นเวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 ศาลากลางจังหวัดตรัง นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ประชุมกับนายอำเภอทั้ง 10 อำเภอ พร้อมด้วยด้วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 30 คน เพื่อรับทราบสถานการณ์ปัญหา ความเคลื่อนไหว เหตุการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับโรคระบาดโควิด 19 ทั่วจังหวัดตรัง
โดยเฉพาะในวันนี้ได้มีเหตุการณ์เร่งด่วน เตรียมความพร้อมในการรับมือในการรับบุคคลสัญชาติไทย จำนวน 10 คน ซึ่งมีภูลำเนาอยู่ในอำเภอกันตัง ได้เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ก่อนที่จะมีอีกกลุ่มใหญ่ตามเข้ามา โดยทุกคนจะต้องเข้ากักตัวเฝ้าระวังโรค เป็นเวลา 14 วัน ที่วิทยาลัยสาธารณสุขสิรินธร ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง
ต่อมารองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจชาวตรัง ที่เดินทางจากประเทศมาเลเซีย พร้อมกับกล่าวถึงกระแสการต่อต้านของชาวบ้านบางกลุ่มในพื้นที่ ซึ่งมีผู้ที่กลับจากประเทศเสี่ยงเข้าไปกักตัวนั้น ตนเองได้สร้างความเข้าใจกับผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ให้เข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องกักตัว และความปลอดภัยของชาวบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายก็เข้าใจไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามในส่วน พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่าตั้งแต่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยกระดับเป็นประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกจากเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 น.- 04.00 น. ได้มีผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดแล้วทั้งหมด 101 คน และทุกคนที่ถูกควบคุมตัว โดยไม่มีเหตุอันควรหรือได้รับอนุญาต ได้มีการส่งดำเนินคดีฟ้องศาลจังหวัดตรังทุกราย
