มะม่วงหิมพานต์งอก อีกหนึ่งความอร่อยของคนใต้ปรุงได้หลายเมนู สาวรุ่นใหม่ชาว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง สืบทอดวิถีชีวิตดั้งเดิม ด้วยการเพาะเมล็ดมะม่วงหิมพานต์งอก แล้วนำมาปรุงเป็นเมนูต่างๆ ที่หวาน-มัน-หนึบ อันแสนอร่อย เหมือนดั่งเช่นรุ่นคุณย่าคุณยาย
มะม่วงหิมพานต์ หรือที่ชาวภาคใต้เรียกว่า หัวครก หรือ ยาร่วง ถือเป็นไม้ผลชื่อดังประจำถิ่นที่สามารถนำส่วนต่างๆ มาบริโภคได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะเมล็ด ซึ่งนอกจากจะนิยมใช้คั่ว หรืออบแล้ว ยังนำมาปรุงเป็นเมนูที่เอร็ดอร่อยได้อย่างมากมาย แต่ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ การที่ชาวบ้านชุมชนบ้านควนอารี หมู่ที่ 9 ตำบลบางดี อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง และพื้นที่ใกล้เคียง ได้นำเมล็ดมะม่วงหิมพานต์มาเพาะ หรือที่เรียกว่า เมล็ดมะม่วงหิมพานต์หมาน เพื่อใช้แทนพืชผักในการปรุงอาหาร แถมยังมีรสชาติเด็ด
นางสาวทัศนีย์ สุขสนาน หรือ น้องนี เป็นหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่พยายามสืบทอดวิถีชีวิตดั้งเดิม ด้วยการเก็บเมล็ดมะม่วงหิมพานต์มาเพาะในทราย แล้วรดน้ำให้ชุ่ม เป็นเวลา 20 วัน ก็จะได้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์งอก ที่มีลักษณะเป็นพู 2 ข้าง คล้ายๆ กับถั่วลิสงงอก เมื่อเด็ดต้นอ่อนและราก รวมทั้งแกะเปลือกสีเทาๆ ที่ห่อหุ้มเมล็ดออกไป ก็ใช้ปรุงเป็นเมนูต่างๆ ได้ทันที เหมือนดั่งเช่นรุ่นคุณย่าคุณยาย เพราะเป็นที่นิยมของชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากมีรสชาติที่แปลกใหม่กว่าผักชนิดอื่น ตรงที่มีทั้งความหวาน ความมัน ผสมกับความหนึบ
โดยเคล็ดลับสำคัญก่อนนำเมล็ดมะม่วงหิมพานต์งอก ไปปรุงเป็นอาหารก็คือ การต้มในน้ำเกลือเพื่อล้างยางที่อยู่ภายในออกไปก่อน ซึ่งหนึ่งในเมนูเด็ดก็คือ แกงไตปลา (แกงพุงปลา) ที่ปกติจะใช้ผักอื่นๆ แต่เมื่อนำมะม่วงหิมพานต์งอกมาใช้แทน ก็จะมีความอร่อยที่ต่างออกไป โดยใส่ลงไปในน้ำแกงที่เดือดจัด แล้วเติมพริกหั่น กับใบมะกรูด ก็ยกเสิร์ฟได้ทันที หรือจะนำใส่ลงไปในผัดเผ็ดปลากระพง แกงส้มปลา/หมู หรือแกงจืด ก็ทำให้เป็นเมนูที่อร่อยได้ไม่ต่างกัน
