นักท่องเที่ยว ตื่นเต้นพบเห็นนกเงือกเล็ก หรือนกแก๊ก สีสันสวยงามนับ 100 ตัว ที่ออกมาหาอาหารในช่วงเช้าตรู่และช่วงเย็นของแต่ละวัน บนเกาะมุกด์
ตรังชูจุดขายการท่องเที่ยวแหล่งดูนกเงือกบนเกาะมุกด์
พื้นที่หมู่ 2 เกาะมุกด์ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ชาวบ้าน นักท่องเที่ยวต่างตื่นเต้นพบเห็นนกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก นับ 100 ตัว ที่ออกมาหาอาหารในช่วงเช้าตรู่และช่วงเย็นของแต่ละวัน เริ่มเป็นภาพชินตาของชาวบ้านบนเกาะมุกด์ โดยเฉพาะพื้นที่เกาะมุกด์การ์เด้นท์ และบริเวณด้านหน้าท่าเทียบเรือบ้านเกาะมุกด์ เป็นแหล่งที่ฝูงนกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก บินลงมาเกาะตามต้นไม้ที่มีผลสุก ตามสวนยางพาราและต้นไม้ใหญ่ ด้วยบริเวณดังกล่าว เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์และเงียบสงบ มีต้นไม้และลูกไม้หลากหลายชนิด อาทิ ลูกเต่าร้าง ลูกยอ มะเดื่อ มะเม่า มะละกอ รวมทั้งผลไม้ตามฤดูกาล
และช่วงฤดูทุเรียนจะมีนกเงือกมาเจาะกินเป็นจำนวนมาก ที่ชาวบ้านปลูกไว้ แต่ชาวบ้านก็ยอมเสียสละให้กับนกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก เพื่อร่วมกันอนุรักษ์นกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก ไว้ให้เป็นแหล่งแพร่ขยายพันธุ์ของนกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก ที่กำลังใกล้สูญพันธุ์ และร่วมกันปลูกผลไม้ป่าซึ่งเป็นอาหารของนกเงือกเพิ่มมากขึ้นด้วย เพื่อชูจุดขายแหล่งดูนกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก บนเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยจะเปิดเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตของนกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก สำหรับกลุ่มคนรักนกเงือก รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่สนใจ
สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวบ้านเกาะมุกด์เป็นอย่างมาก เนื่องจากฝูงนกเงือกที่พบมีหลากหลายสีสัน แสนเชื่อง และอยู่คู่กับชาวบ้านมานานหลายสิบปีแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไปยังเกาะมุกด์ มักจะไม่ผิดหวังกับการชมนกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก สีสันสวยงามนับร้อยตัวที่กระจายกันหากินรอบเกาะ ซึ่งก่อนหน้านี้มีนกเงือกจำนวนมากแต่ถูกบุคคลภายนอกเข้ามาดักยิง เนื่องจากบนเกาะมุกด์ไม่มีตำรวจ และมีแต่ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านซึ่งดูแลไม่ทั่วถึง ชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนคุ้มครองนกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก บนเกาะมุกด์ในระยะยาวด้วย
ด้านนายสมบูรณ์ ทองวารี อายุ 44 ปี ชาวบ้านเกาะมุกด์ อ.กันตัง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีนกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก จำนวนมากแต่ตอนนี้เหลือประมาณ 100 กว่าตัว เนื่องจากชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ด้วยการปลูกผลไม้และอาหารของนกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก ซึ่งมีทั้งมะละกอและทุเรียนด้วย โดยพบมากที่สุดในช่วงหน้าฝนไปจนถึงเดือนธันวาคมของทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถมาดูนกเงือกที่เกาะมุกด์ได้ทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นของแต่ละวัน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่ผิดหวัง กับเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะมุกด์
ข่าวน่าสนใจ:
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- พ่อค้ายาเกมส์ ซุกยาบ้าในกล่องนมมิดชิด รอส่งพ่อค้ารายย่อย ไม่รู้ตร.ซุ่มกวาดล้าง ถูกรวบพร้อมของกลาง 70 เม็ด
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
- พิธีมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-กระบือ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นกแก๊กเป็นนกเงือกที่เล็กที่สุดในประเทศไทย บางแห่งชาวบ้าน จะเรียกว่า นกเงือกเล็ก นกตัวผู้ มีความยาวจากปลายปาก ถึงปลายหาง 89 เซนติเมตร แต่นกตัวเมีย มีขนาดตัวเล็กกว่า คือยาวเพียง 70 เซนติเมตร นกตัวผู้และนกตัวเมียสีสันคล้ายกัน แยกความแตกต่างได้จากคาง ใต้คอ หน้าอกส่วนบน และ ส่วนบนของลำตัวตั้งแต่หัวหลังคอ หลัง ตะโพก และขนคลุมบนโคนหางสีดำสนิท มีเหลือบเขียวเล็กน้อยดูเป็นมัน ปีกสีดำเหลือบเขียว ขนปลายปี ยกเว้น 2 เส้นนอกสุด และ ขนกลางปีกด้านนอก เส้นนอกๆ มีแต้มสีขาวกว้างๆ ตอนปลาย เวลานกกางปีกออก จึงเห็นชายปีก ของมันเป็นสีขาว ชัดเจน ขนหางคู่บนเป็นสีดำทั้งเส้น แต่ขนหางคู่อื่นๆ มีสีดำตอนโคนราว 2 ใน 3ส่วนของขนหางแต่ตอนปลายที่เหลือ เป็นสี ขาว ถ้ามองดูทางด้านล่าง จะเห็นเป็นโคนหางสีดำ ปลายหางสีขาว ยกเว้น นกแก๊กพันธุ์ใต้ (A.a. convexus) ซึ่งมีขนหางเส้นนอกสุด เป็นสีขาวทั้งเส้นหน้าอกส่วนล่าง ท้อง เรื่อยไปจนถึงขนคลุมใต้โคนหาง และ ขนคลุมขาท่อนบนเป็น สีขาว มีหนังเปลือยเปล่า รอบดวงตา และ ที่แก้มตอนล่าง เป็นสีฟ้าจางๆ แต่มักเห็นเป็นสีขาว ม่านตาสีน้ำตาลเข้ม ขา และ นิ้วเท้าสีดำ ปาก และคาสค์ สีขาวแบบสีงาช้าง แต่นกตัวผู้มีคาสค์ใหญ่กว่า มีแต้มสีดำที่คาสค์ และ ปากน้อยกว่า นกตัวเมียนอกจากนี้ นกตัวเมีย ยังมีแต้มสีน้ำตาลแกมแดงคล้ำๆ ถัดจากแต้มสีดำที่โคนปาก อีกด้วย “ข้อมูลเพิ่มเติมจากวิกิพีเดีย”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: