นายกิจ หลีกภัย อายุ 86 ปี พี่ชายนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ประกาศอำลาตำแหน่งทางการทางเมืองแล้ว หลังครองตำแหน่งมานานกว่า 25 ปี ซึ่งวันนี้เข้า อบจ.เพื่อเคลียร์งานที่ยังคั่งค้างและเก็บสิ่งของ โดยมีข้าราชการและพนักงาน อบจ.มอบดอกไม้ให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก
กิจ หลีกภัย: วันนี้(26 ต.ค.63) เวลา 15.30 น. ที่ห้องนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง นางสุภมาส ศรมณี ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงานฝ่ายต่าง ๆ ในองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เดินทางเข้ามอบช่อดอกไม้และดอกกุหลาบ เพื่อเป็นการขอบคุณและให้กำลังใจนายกิจ หลีกภัย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง วัย 86 ปี
และเป็นพี่ชายของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ โดยถือว่าคณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้พ้นจากตำแหน่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2563 หรือวันนี้ และให้จัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน 
โดยอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ได้กล่าวขอบคุณบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังทุกคนที่ได้ร่วมใจปฏิบัติงานกันมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี พร้อมขออภัยหากมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง โดยจะเข้ามาเก็บของวันละชิ้นจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง แต่เอกสารส่วนใหญ่เป็นหนังสือ
ซึ่งนายกิจ หลีกภัย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ได้เข้าห้องทำงานเพื่อเคลียร์งานต่าง ๆ ที่ยังคั่งค้างอยู่และเก็บสิ่งของออกจากห้อง ทำให้ทุกคนรู้สึกใจหาย เนื่องจากนายกิจ หลีกภัย ทำหน้าที่สมาชิกสภาจังหวัดตรังมาตั้งแต่ปี 2538 รวมเวลา 4 ปี ก่อนจะดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเรื่อยมาจนถึงปี 2563 รวมเวลากว่า 25 ปี
นายกิจ หลีกภัยฯ เปิดเผยว่า คงจะจบตรงนี้ ส่วนทีมงานกิจปวงชนของท่านก็ยังมีสมาชิกลงสมัคร ส.จ โดยมีนายบุนเล้ง โล่สถาพรพิพิธ พี่ชายของนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส พรรคประชาธิปัตย์จ.ตรังเขต 3 หลายสมัยและเป็นลุงของ น.ส สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส พรรคประชาธิปัตย์เขต 3 จ.ตรัง ได้มาคุยกับตนว่าจะลงสมัครในนามทีมกิจปวงชน ซึ่งตำแหน่งนี้ยกให้ใครไม่ได้ ต้องให้ชาวบ้านเลือกตั้งเข้ามา
โดยมีชาวบ้านบางส่วนเข้าใจว่า ตนยกตำแหน่งนายก อบจ.ให้กับนายบุนเล้งฯ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถทำได้ ส่วนตนไม่มีใครอยู่ในใจ แต่ก็ได้พูดคุยกับทีม ส.จ เดิมแล้ว หลายคนก็ยังลงสมัคร ส.จ ในนามทีมกิจปวงชนต่อไป และคิดว่านายก อบจ.คนต่อไปคงรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งต้องนึกถึงประชาชนก่อนเป็นลำดับแรก ส่วนตนหลังวางมือทางการเมืองแล้วก็จะไปทำสวน เยี่ยมชาวบ้านตามปกติ และจะได้มีเวลาดูแลชาวบ้านที่คอยให้ความช่วยเหลือกันมาตลอด โดยยังไปเยี่ยมชาวบ้านเหมือนเดิม
