ด้วงออแกนิค ตัวละบาท ใส่ใจทุกขั้นตอนเลี้ยงคงคุณภาพลูกค้าติดบอกปากต่อปาก อดีตหนุ่มเทศบาลฯ ลาออกจากงานประจำหันมาเพาะเลี้ยงด้วงสาคูขายกิโลกรัมละ 200 บาทหรือตกตัวละ 1 บาท สร้างรายได้นับพันบาทต่อวันลูกค้าหลักเป็นคนในพื้นที่ ส่วนต้นสาคูก็อยู่ข้างบ้าน พ่อแม่พันธุ์ก็เพาะเลี้ยงเอง ต้นทุนจึงแทบไม่มี
ด้วงออแกนิค : วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 บ้านของนายจีระวัฒน์ สุดรักษ์ อายุ 42 ปี อยู่หน้าตลาดนัดเกาะหยี เลขที่ 111/2 หมู่ที่ 1 ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง จ.ตรัง ได้ใช้พื้นที่ว่างข้างบ้านสร้างโรงเรือนเพาะเลี้ยงด้วงสาคูในกะละมัง โดยใช้ต้นสาคูที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ และมีอยู่มากตามข้างบ้าน มาเป็นวัตถุดิบหลัก
ต้นสาคู 1 ต้นจะตัดให้ได้ 8-10 ท่อน ความยาวท่อนละประมาณ 50 เซนติเมตร ผ่าออกเป็น 4-6 ซึก ก่อนนำเข้าเครื่องแยกเอาแป้งสาคูออกจากเปลือก แล้วจึงนำแป้งสาคูที่ได้ไปผสมกับรำข้าว เติมน้ำเปล่าลงไปคลุกเค้าให้เข้ากันจากนั้นก็ปล่อยพ่อ-แม่พันธุ์ลงไปในกะละมังๆ ละ 4-5 คู่ ทิ้งไว้ประมาณ 25-30 วัน ก็สามารถจับขายได้ในราคากิโลกรัมละ 200 บาท เฉลี่ยตัวละ 1 บาท
แต่หากต้องการเพาะเป็นพ่อแม่พันธุ์ให้เลี้ยงด้วงสาคูต่อไปอีก 40-45 วันก็จะมีรายได้จากการขายพ่อแม่พันธุ์ตัวละ 4-5 บาทอีกทางหนึ่งด้วย โดยจะนำด้วงสาคูไปวางขายหน้าบ้านซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตลาดสดบ้านเกาะหยี ทำให้มีลูกค้าแวะซื้อวันละ 4-5 กิโลกรัม สร้างรายได้นับพันบาทต่อวัน ลูกค้าหลักก็จะเป็นคนในพื้นที่และอำเภอใกล้เคียงขายหมดเกลี้ยงทุกวัน
ทั้งนี้ นายจีระวัฒน์ สุดรักษ์ ได้ลาออกจากงานประจำมาตั้งแต่ปี 2551แล้วมาเพาะเลี้ยงด้วยสาคูอย่างจริงจังจนประสบผลสำเร็จ ส่วนใครสนใจสามารถส่งขายให้ได้ทางออนไลน์ หรือจะแวะไปศึกษาดูงานได้ฟรีทุกวัน ซึ่งสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-4516545
ด้านนายจิระวัฒน์ สุดรักษ์ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงด้วงสาคู กล่าวว่า ขายได้วันละอย่างน้อย 5 กิโลกรัม ส่วนมากเป็นชาวบ้านแถวนี้ที่ขับรถผ่านไปมา ซึ่งสาคูที่นี่จะเลี้ยงสดผสมรำข้าว ไม่ผสมหัวอาหาร หรืออาหารหมูนม แต่อย่างใด จึงทำให้ด้วงที่ได้จากการเพาะเลี้ยงมีคุณภาพ
รสชาติเหมือนธรรมชาติมากที่สุด และปลอดสารพิษ สารเร่งที่ผสมมากับอาหาร ทำให้ชาวบ้านให้ความสนใจที่จะซื้อและบอกต่อปากต่อปาก จึงส่งผลให้ต้องขยายจำนวนกะละมังเลี้ยงด้วงเพิ่มมากขึ้น และไม่ได้ส่งร้านอาหารแต่อย่างใด เพราะวางขายหน้าบ้านก็หมดทุกวัน.
