X
วอนช่วย, เด็กเลี้ยงวัว,รับจ้างเลี้ยงวัว,วัวชน,โรคลมชัก, อัมพฤกษ์, เส้นเลือดสมองตีบ,

วอนช่วย เด็กเลี้ยงวัวจ้างแบกรับภาระครอบครัวที่มีพ่อแม่ตายายป่วยและพิการ 4 ชีวิต

วอนช่วย เด็กเลี้ยงวัวจ้างแบกรับภาระครอบครัว รับจ้างเลี้ยงวัวชนแทนพ่อที่ป่วยเป็นโรคลมชัก ต่อมาแม่ป่วยอัมพฤกษ์ ส่วนยายกับตา ป่วยโรคเส้นเลือดสมองตีบ ยิ่งเป็นภาระดูแลผู้พิการทั้ง 4 ชีวิต แถมน้องชายยังเรียนหนังสือ

เด็กเลี้ยงวัว : วันนี้ (18 ส.ค.64) ที่บ้านเลขที่ 55/9 หมู่ที่ 1 ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง พบนายณัฐวุฒิ(วุฒิ) พึ่งเรือง อายุ 19 ปี กำลังจูงวัวชนเพื่อออกกำลังกายตอนเช้าบริเวณสนามกีฬาชนโคตำบลควนธานี ก่อนกลับเข้าบ้านไปดูแลอีก 4 ชีวิตที่พิการ มีทั้งพ่อ แม่ ตาและยาย ซึ่งคุณพ่อคือนางชัยณรงค์ พึ่งเรือง อายุ 50 ปี ป่วยด้วยโรคลมชักมานานนับ 10 ปีแล้ว

ทำให้น้องวุฒิฯ ตัดสินใจออกจากโรงเรียนตั้งแต่เรียนจบชั้นม.3 ไม่มีโอกาสเรียนต่อในระดับม.ปลาย เพื่อมารับจ้างเลี้ยงวัวชนรับจ้างแทนพ่อ เป็นเวลากว่า 5 ปีส่วนแม่คือนางอารีรัตน์ พึ่งเรือง อายุ 49 ปี ซึ่งล้มป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ ทำให้แขนขาอ่อนแรง ทำงานหนักไม่ได้ และเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คุณยายคือนางยินดี ชาตรีกุล อายุ 67 ปี ก็ป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

ห่างกันไม่กี่วันคุณตาคือนายมงคล หอยสังข์ อดีตกำนันตำบลนาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง ก็ล้มป่วยเส้นเลือดในสมองตีบตามมาอีกคน ทำให้ในบ้านมีผู้พิการที่ต้องดูแลถึง 4 ชีวิต และยังมีน้องชายวัย 13 ปี คือ ด.ช. สุทธิพงศ์ พึ่งเรือง กำลังเรียนชั้น ม.1 ให้ต้องส่งเสียให้ร่ำเรียนอีกคน โดยมีโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าที่ไม่สามารถดูคลิปการเรียนได้ และสัญญาณเน็ต ขาดๆ หายๆ

ซึ่งนายณัฐวุฒิ(วุฒิ) พึ่งเรืองต้องรับผิดชอบค่าบ้านเช่าในสนามชนโคที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของมูลวัวอีกเดือนละ2,000 บาท ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟอีกกว่า 1,000 บาทต่อเดือน  ซึ่งน้องวุฒิฯ ทำงานได้ค่าจ้างเลี้ยงวัวและรับจ้างทั่วไปเดือนละไม่เกิน 5,000 บาท    โดยได้รับเงินช่วยเหลือคนพิการ 1 คนและเบี้ยผู้สูงอายุ 2 คนรวมกันแล้วได้ 2,000 กว่าบาท

แต่มีค่าใช้จ่ายสูงถึงเดือนละกว่า 10,000 บาท ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างภักดีตรังได้นำถุงยังชีพมามอบให้พร้อมกับเตียงไม้ที่มีคนบริจาคมา และรับส่งคุณตาคุณยาย เวลาไปหาหมอที่โรงพยาบาลตรัง

ซึ่งน้องวุฒิฯ มีความฝันอยากจะมีเงินส่งเสียน้องชายให้ได้เรียนสูง ๆ ส่วนตัวเองก็จะไปสมัครเรียนกับ กศน. เพื่อจะได้มีความรู้ติดตัว โดยน้องณัฐวุฒิกล่าวว่า ตัวเองต้องลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่ชั้น ม. 3 เพื่อช่วยพ่อเลี้ยงวัว ซึ่งที่บ้านมีคนพิการถึง 4 คนคือ พ่อแม่ ตาและยาย ส่วนน้องเรียนหนังสืออีก 1 คน อนาคตฝันอยากให้น้องชายได้เรียนจบสูง ๆ ส่วนตัวเองอยากเรียนต่อ กศน. แต่ตอนนี้ภาระค่าใช้จ่ายหนักอึ้งตกอยู่ที่ตนคนเดียว

ด้านนางอารีรัตน์ พึ่งเรือง อายุ 49 ปีมารดาของน้องณัฐวุฒิฯ เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนอยากจะส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ตอนนี้ติดพิษโควิดทำให้ลูกก็ตกงาน ไม่มีรายได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็นำข้าวสารมามอบให้นาน ๆ สักครั้ง แต่ลูกก็ให้กำลังใจตนว่าอย่าเครียด ลูกจะพยายามสู้เพื่อครอบครัว ซึ่งตนสงสารลูกมากที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไปเลย

ส่วนผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ที่ธนาคารออมสินสาขาตรัง เลขที่บัญชี 020313385385  ชื่อบัญชีนายณัฐวุฒิ พึ่งเรือง หรือติดต่อทางหมายเลขโทรศัพท์ 083-1816614 หรือที่ 099-3085772.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน