ผู้ว่าฯ ตรัง พร้อมคณะกรรมการฯ ได้เดินทางไปยังชุมนุมสหกรณ์เพื่อเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดการทุจริตขึ้นในชุมนุมสหกรณ์ จ.ตรัง เป็นจำนวนเงินกว่า 207 ล้านบาท สร้างความเสียหายอย่างหนัก คณะกรรมการได้ ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แล้ว
วันนื้ (16 พ.ย.61) ที่ชุมนุมสหกรณ์ จ.ตรัง ม.1 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ทางจังหวัดได้เปิดทางให้คณะกรรมการที่ทางจังหวัดตรังแต่งตั้งขึ้น ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนจากสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์ ตรวจบัญชีสหกรณ์ นิติกรจากสำนักงานจังหวัด และนิติกรจากศูนย์ดำรงธรรม เข้าไปทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชี และข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่อาจต้องใช้เวลาพอสมควร ส่วนการจะย้อนหลังไปเป็นระยะเวลาเท่าใดนั้น ต้องขอดูรายละเอียดก่อน ซึ่งการเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายสหกรณ์ทุกมิติ ทั้งการซื้อขาย เส้นทางการเดินของระบบการเงินและบัญชี รวมถึงบริษัทคู่ค้าของสหกรณ์ฯ เพื่อขอทราบข้อมูลที่มีการเกี่ยวพันกันทั้งหมด ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ และรวมถึงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ด้านนายประทบ สุขสนาน ประธานชุมนุมสหกรณ์ยางตรัง กล่าวว่า คณะกรรมการชุดปัจจุบันตรวจสอบพบเมื่อปลายเดือนกันยายน 2561 ว่า มีการทุจริตยักยอกยางของชุมนุมสหกรณ์ไปขายให้กับ 2 บริษัท ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นการไปลักลอบจดทะเบียนจัดตั้ง หรือร่วมมือกับคนของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และยังมีกรณีการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 10 ฉบับ ฉบับละ 5 ล้านบาท รวม 50 ล้านบาท ไปกู้เงินจากบุคคลภายนอก โดยไม่ผ่านการพิจารณาและมติของคณะกรรมการชุดขณะนั้น และขณะนี้ได้ถูกเจ้าของเงินแจ้งความดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับชุมนุมสหกรณ์ จ.ตรัง
โดยจากข้อมูลพบว่า ชุมนุมสหกรณ์ จ.ตรัง มีสหกรณ์เครือข่ายในพื้นที่ จากทั้ง 10 อำเภอ รวม 67แห่ง มีสมาชิกกว่า 60,000 คน ปัจจุบันประสบปัญหาเดือดร้อนหนักจากราคายางตกต่ำอยู่แล้ว แต่มาเกิดปัญหาการทุจริตภายในชุมนุมสหกรณ์อีก ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวสวนยาง ทั้งนี้ ตนเองจะขอให้ทางตำรวจดูเป็นกรณีพิเศษ เพราะกระทบพี่น้องประชาชน เพราะสถานการณ์ยางก็ราคาตกต่ำ ส่วนรัฐบาลเองก็ต้องการให้ชุมนุมสหกรณ์เป็นที่พึ่งให้ประชาชน แต่กลับมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จึงอยากให้ทุกหน่วยงานที่แต่งตั้งและประสานลงไปสอบรายละเอียดให้ชัดเจนให้ได้ข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด เพื่อดำเนินคดีให้เด็ดขาด และจะสนับสนุนส่งเสริมในเรื่องหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ทั้งหมด โดยให้เวลาคณะกรรมการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เพื่อจะได้เร่งดำเนินการส่วนอื่นๆ ด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- ตรัง "เมนูลูกปลาปิ้งเครื่อง" จับปลาสดๆจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย
- DSI ร่วมบริจาคน้ำดื่มให้ท่านจุฬาราชมนตรี เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมด และสิ่งหนึ่งที่มีปัญหาสลับซับซ้อนอยู่จากการสอบถามก็คือ ไปมีส่วนร่วมลงทุนกับ 2 บริษัท ซึ่งคาดน่าจะเป็นบริษัทนอมินี จึงขอให้ผู้มีอำนาจเข้ามาดูแลคดีสอบสวนหาข้อเท็จจริง แล้วมีบทลงโทษผู้กระทำผิดที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะบางหน่วยงานไม่มีอำนาจที่จะไปเรียกร้องเอกสารเส้นทางการเงินที่ได้ เช่น หลักฐานการโอนเงินของสถาบันการเงินต่างๆ ต้องให้มีอำนาจเท่านั้นจึงจะเรียกตรวจได้ เพราะเส้นทางการเงินที่จะต้องสอบพบว่า มีทั้งที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัว และโอนเข้าบัญชีบริษัท ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แล้ว
ทางด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า การรวบรวบพยานหลักฐานทั้งหมดในสัปดาห์หน้าน่าจะสมบูรณ์ทั้งหมด เพื่อให้สำนวนคดีมีความพอดี และตรงตามเอกสารที่มี ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหาประมาณ 3 คน หรืออาจมากกว่านั้น แต่ต้องดูรายละเอียดว่ามีเรื่องอะไรบ้าง จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด ต้องรอฝ่ายผู้เสียหายแจ้งว่ามีความเสียหายเรื่องใดบ้าง จากนั้นก็ต้องหาพยานหลักฐานมาสนับสนุนว่า มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง ส่วนผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดตอนนี้ยังไม่ได้หลบหนี และยังคงอยู่ในพื้นที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: