“ปิ๊ก ในทอน” คลั่งขาดยานรก แม่แจ้งตำรวจเข้าระงับเหตุ เจรจา 30 นาที สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย สองฝ่ายยอมปลดอาวุธ ก่อน ตร.ยิงตาข่ายคลุมตัว ทำหนุ่มคลั่งชักปืนพก.38 ซ่อนข้างเอวกระหน่ำยิงหมดโม่ เจอ ตร.ยิงสวน 1 นัดเข้าจุดตายดับคาบ้าน 
หนุ่มคลั่ง: เมื่อเวลา 19.30 น.วันนี้ 27 ก.ย.64 ร.ต.อ.ฉลองชัย ชาปาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว รับแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรม เหตุเกิดบ้านเลขที่ 159 ม.10 บ้านในทอน ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก.สภ.ย่านตาขาว พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง อัยการจังหวัดตรัง ฝ่ายปกครอง กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ย่านตาขาว และหน่วยกู้ภัย
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ติดกับถนนแอสฟัลท์ บนพื้นปูนหน้าโรงจอดรถข้างบ้านพบร่าง นายพัชระ รัมนา หรือปิ๊ก อายุ 31 ปี อยู่บ้านหลังดังกล่าว สภาพสวมเสื้อยืดสีขาว ทับด้วยเชิ้ตลายพราง นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สวมรองเท้าบูท นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด มีตาข่ายปกคลุมร่างอยู่ พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่หน้าอกขวาเหนือราวนมจำนวน 1 นัด
ใกล้ร่างพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ตกอยู่ซึ่งเป็นของผู้ตาย ตรวจสอบรังเพลิงพบมีปลอกกระสุนถูกใช้งานไปแล้ว 5 นัด บริเวณเอวเหน็บอาวุธมีดยาว 9 นิ้ว 1 เล่ม ในกระเป๋าคาดเอวพบอาวุธมีดพกยาว 5 นิ้ว อีก 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ห่างออกไปจากร่างประมาณ 20 เมตร บริเวณต้นไม้พบรอยถูกคมกระสุนจำนวน 1 รู และ บริเวณลานหญ้าหน้าบ้านพบข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อน
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 16.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว ได้รับแจ้งเหตุ ว่านายพัชระ คลุ้มคลั่งอาละวาดทำลายข้าวของและคนในครอบครัว ทางตำรวจสายตรวจ ต.ทุ่งค่าย และสายตรวจชุด 20 เข้าระงับเหตุ พบนายพัชระ ถือมีดอยู่ในอาการคลั่ง ทำลายข้าวของ และข่มขู่เจ้าหน้าที่
ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการพูดคุยต่อรอง จนทั้งสองฝ่ายยอมวางอาวุธไว้บนพื้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่านายพัชระ เหน็บอาวุธมีดอยู่ด้วย จึงได้ยิงตาข่ายและไม้ง่ามตามยุทธวิธีระงับเหตุ จนคลุมร่างนายพัชระ ทันไดนั้นนายพัชระ พยายามชักอาวุธปืนที่เหน็บซ่อนไว้บริเวณเอว ออกมากระหน่ำยิงกว่า 5 นัด ไปบริเวณหน้าบ้านฝั่งขวา คมกระสุนแฉลบไปโดนต้นยางพารา แต่ไม่โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ 1 ในเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าระงับเหตุ ใช้อาวุธปืนยิงสวนเข้าไป 1 นัดเจาะเข้าจุดสำคัญจนเสียชีวิตคา
จากการสอบถาม นายสมปอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.ทุ่งค่าย เล่าว่า ตนเข้ามาเป็นคนแรกที่เข้ามาตรวจสอบ พบอาละวาดตวาดตำรวจตลอดเวลา และหาว่าตำรวจเข้ามาหาเรื่อง แต่ทางตำรวจก็พูดจาดีทุกคน จนสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ทั้งสองฝ่ายต่อรองจนนายพัชระปลดอาวุธวางมีดลง ทางตำรวจก็วางปืนลงเช่นเดียวกัน จนใช้ตาข่ายยิงไปคลุมร่าง นายพัชระจึงได้ใช้ปืนออกมากระหน่ำยิง ตนเองจึงได้วิ่งหนีตายไปหลบซ่อนใต้ต้นมะพร้ามริมถนน เพื่อหลบวิถีกระสุน แต่โชคดีที่ไม่โดนใคร จนเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิงสวนเข้าไป
ด้าน นายพงศ์พัฒน์ พันธุ์ศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.ทุ่งค่าย กล่าวว่า นายพัชระมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาตั้งแต่เป็นเยาวชนอายุ 17 ปี จนอายุ 31 ปี ถึงปัจจุบัน มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงทำลายข้าวของ ทำร้ายคนในครอบครัว ทั้งภรรยา และแม่หลายครั้ง ซึ่งคนในหมู่บ้านรู้ดี แต่มารุนแรงขึ้นช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทางตำรวจ และฝ่ายปกครองต่างเข้ามาระงับเหตุก่อนหน้าหลายครั้งแล้วเช่นเดียวกัน จนครั้งนี้ผู้เป็นแม่ได้แจ้งตำรวจเข้ามาระงับเหตุเอง ที่ผ่านมาพยายามที่จะนำตัวไปรักษาและบำบัด แต่ไม่ได้รับความยินยอมจากนายพัชระ
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ธนาวัฒน์ ศรีผอม อายุ 26 ปี เพื่อนสนิทบ้านอยู่ติดกัน เล่าว่า นายพัชระทำงานหลายอย่าง กรีดยางพารา เลี้ยงวัว ช่วยผู้เป็นแม่เลี้ยงกุ้ง และล่าสุดเพิ่งจะซื้อม้า จำนวน 3 ตัวมาเลี้ยง มีภรรยา และลูก 2 คน เรียนอยู่ชั้น ม.1 และสุดท้องอายุ 3 เดือน คาดว่าวันนี้นายพัชระน่าจะไม่ได้เสพยาเสพติด ส่วนพฤติกรรมเสพยาเสพติดยอมรับว่ามีมานานแล้ว อารมณ์ฉุนเฉียว ชอบอาละวาดด่าทอแม่ และภรรยาบ่อยครั้ง แต่กับบุคคลอื่นนอกบ้านจะนิสัยดี
เบื้องต้นทางอาวุธปืนที่นายพัชระ ที่ใช้ก่อเหตุมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีชื่อผู้ครอบครองเป็นบุคคลอื่น เนื่องจากนำมาจำนำไว้กับพ่อนายพัชระ ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา สำหรับร่างได้นำส่งไปผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่ รพ.สงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนในทางคดี ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะมีการสอบปากคำนายตำรวจที่ลั่นไก รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้อง และประจักษ์พยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย ด้านญาติผู้เสียชีวิตยังคงไม่มีรายงานยืนยันว่าติดใจในการที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมหรือไม่.
