ชาวบ้านติดตั้งกล้องวงจรปิดส่องโจรสองพี่น้อง ขโมยบอนสี ไม้ด่างยังลอยนวล ตระเวนขโมยต้นบอนสี ไม้ด่าง คาดส่งขายตามใบสั่ง ขโมยเกือบ 2 เดือน ทำชาวบ้านเดือดร้อนแล้วกว่า 50 ครัวเรือน มูลค่าเกินกว่า 3 แสน ผวาหนักกลางคืนต้องนำบอลสีไปเก็บไว้ในบ้าน บางหลังลงทุนติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อไว้เป็นหลักฐาน หลักจากเหตุเกิดไปแจ้งความไว้แล้ว ตำรวจยังไม่จับกุม ปล่อยให้ขโมยต่อเนื่อง ทั้งที่หลักฐานเห็นหน้าชัดเจน ด้าน ตร.ชี้แจง ออกหมายจับแล้ว แนะนำผู้เสียหายทั้งหมดเข้าแจ้งความเพิ่ม
ขโมยบอนสี : วันนี้ 17 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยัง หมู่ 2 หมู่ 4 และหมู่ 5 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว หลังจากเกิดเหตุ คนร้ายซึ่งเป็นชายวัยรุ่น ออกตระเวนขโมยต้นบอนสี และไม้ด่าง ที่มีราคาสูงตั้งแต่ 500-10,000 บาท ตามบ้านเรือนของชาวบ้านตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 64 ต่อเนื่องติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ระยะเวลาเกือบ 2 เดือน ส่งผลทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนและหวาดผวากันกว่า 50 ครัวเรือน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 3 แสนบาท โดยวันที่ 28 ก.ย.64 ที่ผ่านมา ได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีไว้กับ ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว พนักงานสอบสวน รวมทั้งมีการนำเสนอข่าวออกไปแล้ว
โดยที่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 2 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ นายฐากูล รักษารัก หรือแบน อายุ 57 ปี อาชีพประมงพื้นบ้าน หนึ่งในผู้เสียหาย ได้ตัดสินใจควักเงินสดส่วนตัวจำนวน 11,000 บาท ติดตั้งกล้องวงจรปิดจำนวน 4 ตัว ไว้รอบตัวบ้าน หลังจากที่มีคนร้ายย่องเข้าขโมยต้นบอนสีกลางดึกมาแล้วกว่า 3 ครั้ง ทั้งนี้นอกจากขโมยต้นไม้แล้ว ยังเคยย่องเบาขโมยเครื่องใช้ภายในบ้าน ทั้ง สว่างไฟฟ้า หินเจียร รวมทั้งสัตว์เลี้ยง เช่น เป็ด ไก่ มาแล้ว โดยหลังจากติดตั้งกล้องวงจรปิดคนร้ายคนเดิมยังคงเข้ามาขโมยเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งกล้องสามารถบันทึกไว้ได้
นายฐากูล หรือลุงแบน กล่าวว่า หลังจากคนร้ายเข้าขโมยตนได้ซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้ง เพื่อนำหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วเช่นกัน แต่ตำรวจยังคงปล่อยละเลยไม่ยอมจับกุม ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม สำหรับตนได้นำต้นไม้ที่มีราคาไปเก็บไว้ในตัวบ้าน คนร้ายรู้แล้วว่าเป็นคนในหมู่บ้านเป็นชายวัยรุ่น และคาดว่าน่าจะนำไปขายตามใบสั่ง เพราะจำนวนมาก หากเอาไปเลี้ยงไว้เองคงจะไม่มีที่ปลูก อยากให้ตำรวจจับให้ได้ ผ่านมาหลายวันยิ่งทำให้หวาดผวาหนักไปอีก ต้นไม้ของตนที่ปลูกไว้มีจำนวนกว่า 200-300 ต้น ราคาตั้งแต่ 1,000-2,000 บาท
ด้าน น.ส.ชลธิชา เสถียรพงษ์ หรือหน่อย อายุ 37 ปี กล่าวว่า หลังจากที่ตนนำหลักฐานภาพวงจรปิดไปแจ้งความไว้ ก็ยังคงไม่มีความคืบหน้า โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาคนร้ายก็ยังคงตระเวนเข้าขโมยอีก แต่ชาวบ้านบางหลังไม่มีหลักฐานที่จะนำไปแจ้งความ ตอนนี้ชาวบ้านผวาและเดือดร้อนมาก ถึงขั้นนอนไม่หลับ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายเป็นคนในหมู่บ้าน หากคนร้ายยังคงถูกจับกุมก็หวาดผวาว่า จะกลับมาทำร้ายตนเองและคนในครอบครัวที่ไปแจ้งความไว้ เพราะครอบครัวตนเองมีแต่ผู้หญิง อยากให้ตำรวจจับให้ได้เร็วที่สุดเพราะหลักฐานเห็นคนร้ายอย่างชัดเจน.
เวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เจ้าของคดี เพื่อติดตามความคืบหน้า เบื้องต้นได้รับข้อมูลว่า ศาล จ.ตรัง ได้อนุมัติออกหมายจับคนร้ายแล้ว เมื่อวันศุกร์ ที่ 15 ต.ค.64 ที่ผ่านมา และอยู่ในระหว่างดำเนินการเข้าจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งขอแนะนำไปยังผู้เสียหายให้เดินทางเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมได้.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: