เทขายบอนสี หาเงินซ่อมบ้าน เจ้าของบอนสีชาวตำบลโพรงจรเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เปิดใจจำยอมเทขายบอนสี และไม้ด่างที่เหลือนับพันต้นในราคาถูกสุด เพื่อต้องการหาเงินมาซ่อมแซมบ้าน หลังถูกน้ำป่าพัดถล่มจนบ้านทรุดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา และทำให้บอนสีที่เพาะเลี้ยงไว้เพื่อเตรียมส่งขายลูกค้าตามออเดอร์ช่วงปีใหม่ ได้ลอยหายไปสายน้ำมากกว่าครึ่ง
เทขายบอนสี : วันที่ 23 ธันวาคม 2564 หลังเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากจากน้ำตกไพรสวรรค์ หมู่ที่ 4 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรังเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้มีเรือกสวนไร่นาและบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายเกือบ 700 หลังคาเรือน รวมไปถึงบ้านเลขที่ 257 หมู่ 4 โพรงจระเข้ ซึ่งเป็นบ้านของนายพลทอง ธรรมศิริ อายุ 54 ปี ถูกน้ำป่าซัดที่ดินจมหายลงไปในลำคลองประมาณ 50-60 เมตร
หลังบ้านมีสภาพทรุดเอียง เนื่องจาก เสาตอหม้อขาดเหลือเพียง 7 เสา และเป็นโพรงขนาดใหญ่ ส่วนกระเบื้องหลังคาแตกเสียหายจำนวนหลายสิบแผ่น เนื่องจากมีต้นไม้ล้มทับหลังคาบ้านและทะลุฝ้าเพดานเข้าไปถึงในห้องนอน โชคดีที่ยังพา 5-6 ชีวิตที่นอนอยู่ในบ้านในคืนเกิดเหตุหนีรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 100,000 บาท และต้องพาครอบครัวมาอาศัยนอนในขนำที่สร้างไว้สำหรับเป็นเพิงพักขายต้นไม้แทน
นอกจากนี้ ยังทำให้แปลงเพาะเลี้ยงต้นบอนสีและไม้ด่างราคาตั้งแต่หลักสิบถึงหลักพันกว่า 4,000 ต้นลอยหายไปกับสายน้ำ เสียหายนับแสนบาท ส่วนบอนสีและไม้ด่างที่เหลืออยู่ประมาณ 1,000 ต้นอยู่ด้านบน ทำให้รอดจากน้ำป่ามาได้ และมีบางส่วนเพิ่งซื้อแม่พันธุ์มาเพาะใหม่ทดแทนของเก่าที่สูญหายไป ซึ่งช่วงนี้จำต้องประกาศขายบอนสีและไม้ด่างทุกกระถาง ในราคาถูกสุด เริ่มต้นที่กระถางละ 50-250 บาท
ข่าวน่าสนใจ:
แต่หากเป็นกระถางไม้ด่างฟอร์มใหญ่ เช่น แบล็กเมจิกกลาย, แบล็กเมจิกบิวตี้, บอนกระดาษด่าง, ต้นโพธิ์ 7 สี,อโลคาเซีย,ถุงเงินถุงทอง ราคาหลักพันก็มีให้เลือกหลายต้น โดยรายได้ทั้งหมดเจ้าของจะนำไปซ่อมแซมบ้าน เพื่อให้ครอบครัวสามารถกลับเข้าไปอาศัยได้อีกครั้ง ซึ่งยอมรับว่าคงต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกนานหลายเดือน
เพราะสภาพบ้านตอนนี้อยู่ติดกับลำคลองไปแล้ว ประกอบกับทหารช่างและ อบจ.ตรังที่เคยนำเครื่องจักรกลขนาดใหญ่มาขุดลอกทางน้ำ ตอนนี้ได้นำเครื่องจักรกลออกจากพื้นที่หมดแล้ว ชาวบ้านที่เหลือจึงต้องหาเครื่องจักรกลและซ่อมแซมในส่วนที่เหลือกันเองต่อไป ส่วนใครสนใจจะติดต่อสั่งซื้อทางออนไลน์สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่หมายเลข 064-2695221
ด้าน น.ส สุจิรา ธรรมศิริ อายุ 49 ปีเจ้าของบ้านกล่าวว่า หากมาเที่ยวน้ำตกไพรสวรรค์เชิญชวนมาซื้อบอนสีเป็นของขวัญปีใหม่เป็นโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อนำเงินมาซ่อมบ้าน เพราะพังไปเยอะเป็นแสนบาท ตัวเสาตอหม้อไปหมดแหลือ 7 เสา แถมน้ำพัดต้นไม้ตีหลังคาซ้ำอีก ตอนนี้น้ำรั่วต้องตัดไฟฟ้าเกิดความหวาดระแวงต้องมานอนที่ขนำร้าน เกิดมาอายุ 49 ปีแล้วไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
ถ้าไม่มีน้ำป่าช่วงปีใหม่นี้ขายได้ 40,000-50,000 บาท โดยเพาะบอนสีมา 2 ปีแล้วเมื่อก่อนขายได้วันละ 4,000-5,000 บาท ตอนนี้เหลือวันละ 400-500 บาท ไม้ที่เพาะอยู่มีเสียหายถึง 4,000 กระถาง ตัวบ้านก็ไม่มีใครกล้าอยู่ จึงต้องย้ายมานอนที่ขนำแทน
แต่หากไม่มีน้ำป่าช่วงปีใหม่นี้จะส่งขายไปถึงประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์เวียดนาม สั่งประเทศละ 500 กระถาง ๆ ละ 150 บาทเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ตอนนี้เหลืออยู่ประมาณ 1,000 กระถาง ขายราคาถูกเพื่อเอาเงินมาซ่อมบ้าน บ้านพังไปเยอะหรือประมาณ 100,000 บาท
ด้านนายพลทอง ธรรมศิริ อายุ 54 ปีเจ้าของบ้านกล่าวว่า ขอเชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบไม้ด่างหรือมาเที่ยวที่น้ำตกไพรสวรรค์ เชิญชวนมาเลือกซื้อเลือกชมในราคาบ้าน ๆ คุยกันได้ เพื่อนำเงินมาซ่อมแซมบ้านที่ชำรุดเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ ช่วงโควิดทำให้ได้รู้จักกับบอนสีและไม้ด่าง เพราะลูกตกงานจากบริษัทต่างประเทศ ขณะเดียวกันลูกใช้อินเตอร์เน็ตอยู่ จึงคิดกันว่า ทำยังไงให้สร้างรายได้ ประกอบกับอยู่กับธรรมชาติอยู่แล้ว จึงหาไม้แปลก ๆ ในป่ามาขาย มีลูกค้าสนใจ หลังจากนั้นจึงหาบอนสีมาขายตั้งแต่ยังไม่มีกระแสบอนสีและลูกก็ขายทางออนไลน์อยู่.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: