กล้องวงจรปิดจับภาพโจรแสบย่องเบาเข้าร้านมินิมาร์ทของ ผอ.โรงเรียน กลางวันแสกๆ อาศัยจังหวะในขณะที่ผู้เป็นแม่วัย 73 ปี เฝ้าร้านและนอนหลับอยู่บริเวณเคาน์เตอร์เก็บเงิน ก่อนหยิบกระเป๋าหยิบเงินสด 2 พันบาทหลบหนี โดยไม่ได้สังเกตว่ามีสร้อยคอทองหนัก 2 สลึงอยู่ในกระเป๋าด้วย วอนตำรวจล่าตัว
เมื่อเวลา 12.02 น. วันนี้ 9 มี.ค.65 ร.ต.ท.นรชัย นวลหนู รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายเข้าลักทรัพย์ภายในร้านค้ามินิมาร์ท ชื่อร้านโจมาร์ท เลขที่ 18/1 หมู่ที่ 2 ต.นาบินหลา อ.เมือง จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงเร่งเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยกำลังชุดสืบสวน และกำลังตำรวจสายตรวจ ต.นาบินหลา
ถึงที่เกิดเหตุทราบว่าเป็นร้านของ นายเดชพล ชูสังข์ หรือ ผอ.โจ มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหินคอกควาย อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยมี นางอารีย์ ชูสังข์ อายุ 73 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นผู้ดูแลร้าน ยืนรอคอยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ก่อนจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดจำนวน 2 ตัว ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณหน้าร้าน และในร้าน พบว่าช่วงเวลาประมาณ 11.13 น. วันเดียวกัน ได้มีชายไทยอายุประมาณ 40-45 ปี ผิวดำเข้ม สวมเสื้อยืดแขนยาวสีแดง กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าแตะสีเหลือง สวมหมวกแก๊ป และหน้ากากอนามัย
เข้ามาภายในร้าน ในขณะที่นางอารีย์ นอนหลับอยู่บนเก้าอี้ บริเวณเคาน์เตอร์เก็บเงิน ก่อนจะเดินวนเวียน เพื่อสำรวจหาทรัพย์สิน ก่อนจะนอนพาดลงไปบนตู้แช่น้ำแข็ง ก่อนจะหยิบกระเป๋าของนางอารีย์ที่ตั้งอยู่ใต้เคาน์เตอร์เก็บเงิน และยกเดินออกมารื้อค้นทรัพย์สิน หลังจากได้ทรัพย์สินแล้วจึงวางกระเป๋าไว้บนเคาน์เตอร์ และเดินออกจากร้านหลบหนีไปอย่างใจเย็น
นางอารีย์ เล่าว่า ร้านดังกล่าวเปิดมาประมาณ 14 ปีแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาก่อน โดยมีลูกชายคือ นายเดชพล ชูสังข์ หรือ ผอ.โจ เป็นเจ้าของร้าน ซึ่งตอนเกิดเหตุลูกชายได้ออกไปทำงานแล้ว โดยตนนั่งเฝ้าหน้าร้าน และเกิดง่วงนอน ประจวบเหมาะกับไม่มีลูกค้า จึงได้ล้มนอนใกล้ๆ กับโต๊ะคิดเงิน แต่กระเป๋าสะพายที่ใส่เงินตนเองได้วางหลบมุมเอาไว้ใต้โต๊ะ ซึ่งมีตู้แช่ไอศกรีมจำนวน 2 ตู้วางขวางอยู่
หลังจากตื่นนอนหันไปเจอกระเป๋าสะพายเปลี่ยนจากจุดที่ตนเองวางไว้ใต้โต๊ะกลับมาตั้งบนโต๊ะ จึงหยิบมาเปิดตรวจทรัพย์สินดูพบว่าเงินสดหายไปจำนวน 2,000 บาท ส่วนสร้อยทอง น้ำหนัก 2 สลึง ที่ตนใส่ไว้ในกระเป๋านั้นยังคงอยู่ คาดว่าคนร้ายไม่ทันสังเกตเห็น
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสของคนร้าย ซึ่งอยู่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ พร้อมทั้งไล่ตรวจกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงเพื่อติดตามเส้นทางการหลบหนี และตรวจสอบประวัติอาชญากร เพื่อติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
